ลดต้นทุนเลี้ยงโคด้วยแนวคิดฟาร์มอัจฉริยะ ทางรอดของเกษตรกรตัวเล็ก
ต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูงถึง 70-80% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นปัญหาใหญ่ที่เกษตรกรผู้เลี้ยงวัวทั่วประเทศต้องเผชิญ โดยเฉพาะเกษตรกรรายเล็กที่ไม่มีอำนาจต่อรองและต้องรับมือกับความผันผวนของราคาตลาด แต่ โคสง่าฟาร์ม จังหวัดชัยภูมิ ได้ปรับแนวคิดและเปลี่ยนแนวทางการเลี้ยง ด้วยการนำหมูมาเลี้ยงควบคู่ไปกับวัวเพื่อลดต้นทุน
แนวคิดนี้เริ่มต้นจาก สันชัย ภู่บัว (พี่หนุ่ม) เจ้าของโคสง่าฟาร์ม ที่เติบโตมากับอาชีพเลี้ยงวัวตามรอยพ่อแม่แบบไล่ทุ่ง เมื่อเรียนจบและเห็นว่าพ่อแม่เริ่มมีอายุมากขึ้น เขาตัดสินใจลาออกจากงานประจำเพื่อกลับมาเลี้ยงวัวเต็มตัว พร้อมปรับเปลี่ยนวิธีเลี้ยงเป็นระบบกึ่งยืนโรง เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ
ฟาร์มแห่งนี้ยังนำระบบฟาร์มอัจฉริยะมาใช้ในการจัดการโรงเรือนหมู ช่วยให้โรงเรือนสะอาด ลดกลิ่น ไม่รบกวนชุมชน และที่สำคัญคือสามารถนำน้ำจากมูลหมูไปเลี้ยงหญ้าแพงโกล่า ซึ่งเป็นอาหารหลักของวัว ทำให้ทุกอย่างในฟาร์มเชื่อมโยงกันเป็นระบบ ช่วยลดต้นทุนค่าอาหารสัตว์และสร้างฟาร์มที่ยั่งยืน
แนวทางนี้พิสูจน์แล้วว่าเกษตรกรรายเล็กสามารถอยู่รอดได้ แม้ต้องเผชิญกับต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น เพียงแค่รู้จักบริหารจัดการทรัพยากรภายในฟาร์มให้เกิดประโยชน์สูงสุด
โคสง่าฟาร์ม ปลูกหญ้าแพงโกล่า ลดต้นทุนการเลี้ยงวัวอย่างยั่งยืน
การปลูก หญ้าแพงโกล่า (Pangola Grass) เป็นอาหารหลักสำหรับวัวช่วยลดต้นทุนการเลี้ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ โคสง่าฟาร์ม ใช้รถแทรกเตอร์ตัดหญ้าแพงโกล่าให้วัวจำนวน 20 ตัว ซึ่งเป็นวัวบราห์มันเลือดร้อยและวัวลูกผสม พันธุ์ที่เหมาะกับสภาพพื้นที่เพราะทนทานต่อสภาพอากาศ แมลง และโรคระบาดได้ดี
เหตุผลที่เลือกใช้หญ้าแพงโกล่าเป็นอาหารหลัก เนื่องจากเป็นหญ้าที่มีโปรตีนสูง วัวกินในปริมาณไม่มากแต่ยังคงอิ่มท้อง โดยปริมาณที่เหมาะสมอยู่ที่ 10% ของน้ำหนักตัววัว เช่น วัวที่หนัก 500 กิโลกรัม ควรกินหญ้าประมาณ 50 กิโลกรัมต่อวัน เพื่อให้ได้รับสารอาหารเพียงพอและมีสุขภาพที่ดี
ทุกเช้า พี่หนุ่ม จะให้วัวกินหญ้าแพงโกล่าสดก่อน เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่มีคุณค่าสูงสุด จากนั้นจึงเสริมด้วยฟางแห้ง วัวที่เลี้ยงในฟาร์มจึงมีอาหารเพียงพอตลอดทั้งปี
ฟาร์มมีพื้นที่ปลูกหญ้าแพงโกล่าทั้งหมด 12 ไร่ บนพื้นที่ฟาร์มรวม 30 ไร่ ใช้เวลาเลี้ยงวัวไม่ถึง 2 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้เหลือเวลาไปทำเกษตรด้านอื่น และที่สำคัญคือการใช้หญ้าสดจากฟาร์มเองช่วยลดต้นทุนค่าอาหารสัตว์ได้เกือบทั้งหมด ทำให้การเลี้ยงวัวเป็นไปอย่างยั่งยืนและคุ้มค่ามากที่สุด
เปลี่ยนน้ำมูลหมูให้เป็นปุ๋ย เลี้ยงหญ้าแพงโกล่าให้วัวกินทั้งปี
ที่ โคสง่าฟาร์ม มีแนวทางการดูแลหญ้าแพงโกล่าให้เพียงพอกับจำนวนวัว ด้วยการนำน้ำมูลหมูมาใช้เป็นปุ๋ยบำรุง เนื่องจากน้ำมูลหมูอุดมไปด้วยธาตุอาหารสำคัญที่ช่วยให้หญ้าแพงโกล่าเติบโตได้ดี
พี่หนุ่ม ได้รับคำแนะนำจากกรมปศุสัตว์ว่ามีเกษตรกรที่สามารถปลูกหญ้าให้วัวกินได้ตลอดปีโดยใช้น้ำมูลหมูบำรุง จึงเริ่มศึกษาและพัฒนาแนวทางนี้ในฟาร์มของตัวเอง โดยลงทุนสร้างโรงเรือนเลี้ยงหมูระบบปิด (Evap) ซึ่งช่วยให้ได้มูลหมูมาใช้ในการปลูกหญ้าแพงโกล่าอย่างเป็นระบบ
แม้ว่าเป้าหมายเริ่มต้นจะเป็นการเลี้ยงหมูเพื่อผลิตน้ำมูลหมูให้พอเพียงกับการปลูกหญ้า แต่ปัจจุบันการเลี้ยงหมูกลับกลายเป็นรายได้หลักของฟาร์ม ช่วยเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และทำให้ฟาร์มสามารถบริหารจัดการต้นทุนอาหารวัวได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
โรงเรือนหมูระบบปิด อีแว๊ป (Evap) เทคโนโลยีช่วยทุ่นแรงและลดปัญหากลิ่น
โรงเรือนเลี้ยงหมูที่โคสง่าฟาร์มเป็นระบบปิด (Evap) ที่ออกแบบให้สะอาด ปลอดภัย และลดปัญหากลิ่นรบกวน ภายในฟาร์มมีหมูทั้งหมด 600 ตัว โดยพี่หนุ่มดูแลเองทั้งหมด พร้อมนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยทุ่นแรงและเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น
- ระบบให้อาหารอัตโนมัติ (Auto Feeding System) ที่ช่วยให้อาหารหมูโดยไม่ต้องแบกกระสอบ ลดภาระงานหนัก
- ระบบทำความเย็นด้วยการระเหยของน้ำ (Evaporative Cooling System) ช่วยควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมกับการเลี้ยงหมู
- กล้องวงจรปิด (CCTV Monitoring System) ช่วยสังเกตพฤติกรรมหมู ลดการเข้าออกฟาร์ม เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคระบาด
ทุกเช้า พี่หนุ่มจะเริ่มต้นด้วยการตรวจสุขภาพหมู คัดแยกตัวที่อาจมีอาการป่วย พร้อมทำความสะอาดคอก โดยใช้เหล็กเขี่ยมูลหมูให้ลงในรางที่เตรียมไว้ ซึ่งช่วยให้ฟาร์มสะอาด ไม่มีกลิ่นรบกวน และลดโอกาสเกิดโรค
วิธีการนำน้ำมูลหมูไปใช้ในฟาร์ม
ที่ โคสง่าฟาร์ม มีการจัดการมูลหมูอย่างเป็นระบบ โดยนำน้ำมูลหมูมาใช้เป็นปุ๋ยบำรุงแปลงหญ้าแพงโกล่า ทำให้มีหญ้าสดสำหรับเลี้ยงวัวได้ตลอดทั้งปี แม้ในช่วงหน้าแล้ง
หลังจากทำความสะอาดคอก มูลหมูจะถูกส่งไปยังบ่อพักและบ่อแก๊ส ซึ่งช่วยลดกลิ่นและปรับสภาพน้ำให้เหมาะสมกับการนำไปใช้ในแปลงหญ้า หากเป็นช่วงที่มีน้ำเพียงพอ จะปล่อยน้ำมูลหมูที่ล้นจากบ่อแก๊สลงแปลงหญ้า แต่หากเป็นหน้าแล้ง จะใช้ระบบท่อส่งน้ำมูลหมูไปยังแปลงหญ้าโดยตรง เพื่อให้พืชได้รับธาตุอาหารอย่างต่อเนื่อง
นอกจากการใช้บำรุงแปลงหญ้าแล้ว น้ำมูลหมูยังสามารถสร้างรายได้เสริม โดยพี่หนุ่มนำไปจำหน่ายให้กับเกษตรกรที่ต้องการ โดยใช้บรรทุกไปรดแปลงเกษตรต่าง ๆ ซึ่งช่วยเพิ่มประโยชน์สูงสุดจากของเสียในฟาร์ม
ผลลัพธ์ที่ได้คือ หญ้าแพงโกล่าเติบโตดี เขียวขจีตลอดปี แม้ในช่วงที่หญ้าหายาก ช่วยลดต้นทุนค่าอาหารสัตว์ และทำให้การเลี้ยงวัวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
หญ้าแพงโกล่า ทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับการเลี้ยงวัว
ก่อนที่จะมาปลูกหญ้าแพงโกล่า พี่หนุ่ม ได้ลองปลูกหญ้าหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น หญ้ารูซี่ กินนีสีม่วง และถั่วฮามาต้า แต่พบว่าหญ้าเหล่านี้เจริญเติบโตได้ดีเฉพาะในช่วงฤดูฝน พอเข้าฤดูแล้งก็เติบโตช้าลงและให้ผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของวัว
จนกระทั่งได้รู้จัก หญ้าแพงโกล่า ซึ่งเป็นหญ้าที่มีโปรตีนสูง วัวกินแล้วอิ่มเร็ว ไม่ต้องกินในปริมาณมากเหมือนหญ้าชนิดอื่น ๆ พี่หนุ่มจึงเก็บตัวอย่างหญ้าแพงโกล่าส่งให้สำนักงานปศุสัตว์ตรวจสอบในห้องแล็บเพื่อวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ และพบว่าหญ้าชนิดนี้มี โปรตีนสูงถึง 16.12% ซึ่งเทียบเท่ากับอาหารข้น 1 กระสอบ
นอกจากช่วยให้วัวมีสุขภาพแข็งแรง อ้วนท้วนสมบูรณ์แล้ว หญ้าแพงโกล่ายังช่วยลดต้นทุนค่าอาหาร ทำให้การเลี้ยงวัวมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากขึ้น
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตัดหญ้าแพงโกล่าเพื่อคุณภาพอาหารวัว
หญ้าแพงโกล่าสามารถตัดได้ทุก ๆ 2 สัปดาห์ต่อรอบ เนื่องจากได้รับปุ๋ยจากมูลหมู ทำให้เจริญเติบโตเร็วและสามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างต่อเนื่อง โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการตัดคือ หลัง 4 โมงเย็น
สาเหตุที่เลือกตัดในช่วงเย็นเนื่องจากในช่วงเช้าหญ้ายังมีน้ำค้างเกาะอยู่ ซึ่งอาจเป็นแหล่งสะสมของหนอนและพยาธิที่อยู่บริเวณยอดหญ้า แต่เมื่อหย้าได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน หนอนและพยาธิจะกลับลงไปในดิน ทำให้ช่วงเย็นเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการตัดหญ้าเพื่อนำไปเป็นอาหารวัวในวันถัดไป ทั้งยังช่วยให้หญ้าที่ตัดมาสด สะอาด และปลอดภัยสำหรับวัวอีกด้วย
หมู วัว หญ้า วงจรเกษตรที่สร้างรายได้และลดต้นทุน
การเลี้ยงหมูไม่ได้ให้แค่ผลผลิตจากตัวหมูเอง แต่ยังให้ น้ำมูลหมู ซึ่งนำมาใช้รดแปลงหญ้า ทำให้หญ้าเจริญเติบโตได้ดีและอุดมสมบูรณ์ เมื่อวัวได้กินหญ้าที่มีคุณภาพ ก็จะอิ่มท้องและขับถ่ายออกมาเป็น มูลวัวที่มีสารอาหารสูง ซึ่งสามารถนำไปใช้บำรุงพืชผักให้เจริญเติบโตได้ดี
ในช่วงหน้าแล้ง พี่หนุ่ม จะนำมูลวัวไปตากแห้งและบรรจุใส่กระสอบเพื่อจำหน่าย สร้างรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง หรือจะนำไปใช้ในแปลงอ้อยของคุณพ่อ ซึ่งช่วยลดต้นทุนค่าปุ๋ยได้เป็นอย่างดี วงจรนี้เป็นแนวทางเกษตรที่ช่วยให้การทำฟาร์มมีความคุ้มค่าและยั่งยืน
เป้าหมายการพัฒนาฟาร์มโคสง่า สู่ความยั่งยืนในอนาคต
ในอนาคต พี่หนุ่มวางแผนขยายฟาร์ม และเพิ่มจำนวนวัวจากเดิม 20 ตัว เป็น 30 ตัว โดยมั่นใจว่ามีแปลงหญ้าเพียงพอสำหรับเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม ไม่เกินกำลังของฟาร์ม ทั้งนี้ พี่หนุ่มเชื่อว่าหัวใจสำคัญของการทำเกษตรยุคใหม่คือ ความอดทนและใจเย็น เพราะการทำเกษตรไม่ว่าจะเป็น การปลูกพืช ประมง หรือเลี้ยงสัตว์ ล้วนต้องใช้เวลาในการดูแลและพัฒนา
การทำฟาร์มให้ประสบความสำเร็จ ต้องมีแปลงหญ้าที่เพียงพอ ระบบการจัดการอาหารสัตว์ที่ดี และการป้องกันโรคด้วยวัคซีน รวมถึงการหมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ มาปรับใช้กับแนวทางดั้งเดิมให้เหมาะสมกับพื้นที่ของแต่ละคน
การมองการณ์ไกลในภาคเกษตรจึงไม่ควรโฟกัสแค่ปลายทาง แต่ควรค่อย ๆ เรียนรู้ หาวิธีป้องกันปัญหา และพัฒนาอย่างเป็นระบบ เพราะการใช้เวลาศึกษาเพื่อป้องกัน ย่อมดีกว่าการต้องเสียเวลาแก้ไขในภายหลัง การเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนคือการค่อยเป็นค่อยไป ไม่ตามกระแสมากเกินไป และมุ่งเน้นการพัฒนาที่เหมาะสมกับศักยภาพของตนเอง
สามารถรับชมรายการ “ยัง (Young) สามารถ” ที่ Link
สนับสนุนโดย #กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
#ยังสามารถ #YoungSmartFarmer #เกษตรอัจฉริยะ #โคสง่าฟาร์ม #เลี้ยงวัวลดต้นทุน #หญ้าแพงโกล่า #ปุ๋ยจากมูลหมู #เกษตรสัญจร
………………………………………
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :
𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร
𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn
𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn
𝗦𝗵𝗼𝗽𝗲𝗲: shopee.co.th/kasetsanjorn
𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹: @kasetsanjorn
𝗕𝗹𝗼𝗰𝗸𝗱𝗶𝘁: blockdit.com/kasetsanjorn/
𝗧𝘄𝗶𝘁𝘁𝗲𝗿: twitter.com/kasetsanjorn/
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: kasetsanjorn.com