ก่อนจะมาทำเกษตรทำอะไรมาก่อน?
ก่อนจะกลายมาเป็นเกษตรกรเต็มตัวพี่แจ็คเคยทำงานประจำอยู่ที่กรุงเทพฯ ด้วยความตั้งใจอยากกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดในต่างจังหวัดแต่ขณะนั้นยังไม่มีอาชีพเป็นของตัวเอง จึงเริ่มต้นนำพื้นที่หลังบ้านมาใช้ทำเกษตร เพราะมีใจรักธรรมชาติ และอยากทำเกษตรแนวสุขภาพที่ปลอดสารเคมี
ในช่วงแรก พี่แจ็คย้ายงานกลับมาใกล้บ้าน พร้อมทำเกษตรควบคู่กับงานประจำในวันหยุด พยายามหาพืชที่เหมาะกับการปลูกในพื้นที่ภาคอีสาน และในช่วงที่ทำงานประจำก็มีโอกาสไปดูงานท่องเที่ยวต่างประเทศ ได้พบเห็นการปลูกผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ จึงเกิดแรงบันดาลใจอยากนำมาพัฒนาและปลูกในเมืองไทย นับเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางเกษตรกรที่เดินหน้ามาจนถึงวันนี้
ทำไมถึงเลือกปลูกแบล็คเบอร์รี่ในเมืองไทย?
จากการที่พี่แจ็คได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานในสวนเบอร์รี่ที่ต่างประเทศ เกิดความสงสัยว่าทำไมสวนเบอร์รี่เหล่านั้นถึงต้องใช้ฮีทเตอร์เพิ่มความร้อนให้กับต้นไม้ และใช้อุณหภูมิที่ใกล้เคียงกับเมืองไทย คือประมาณ 35-40 องศาเซลเซียส พี่แจ็คจึงมองเห็นโอกาสว่า เมืองไทยเองก็น่าจะสามารถปลูกเบอร์รี่ได้เช่นกัน
เมื่อได้ย้ายงานกลับมาใกล้บ้าน พี่แจ็คเริ่มมองหาสายพันธุ์เบอร์รี่ที่มีจำหน่ายในไทยเพื่อนำมาปลูก แต่ยังไม่พบสายพันธุ์ที่ถูกใจ จึงศึกษาต่อจนพบว่า หากต้องการปลูกเบอร์รี่ในเมืองไทยให้ได้ผลดี จำเป็นต้องมีการพัฒนาสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนของบ้านเรา พี่แจ็คจึงเริ่มทดลองนำแบล็คเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ และบลูเบอร์รี่หลากหลายสายพันธุ์เข้ามาทดลองปลูก แต่เน้นการปลูกแบล็คเบอร์รี่เป็นหลัก เพื่อพัฒนาและปรับตัวให้เหมาะกับสภาพอากาศในเมืองไทยมากที่สุด
การจัดการระบบน้ำเพื่อปลูกแบล็คเบอร์รี่ในพื้นที่ภาคอีสาน
ด้วยสภาพพื้นที่ภาคอีสานที่ค่อนข้างแห้งแล้ง พี่แจ็คจึงวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างรอบคอบ โดยใช้น้ำบาดาลสูบเก็บลงในโอ่งน้ำขนาดใหญ่ และขุดบ่อเก็บน้ำขนาดเล็กในพื้นที่สวนเบอร์รี่ขนาดประมาณ 1 ไร่ เพื่อให้มีน้ำสำรองเพียงพอสำหรับใช้ในช่วงหน้าแล้ง โดยใช้น้ำบาดาลเป็นแหล่งหลักในการหล่อเลี้ยงสวน
โชคดีที่แบล็คเบอร์รี่เป็นพืชที่ต้องการน้ำไม่มากนัก พี่แจ็คจึงสามารถบริหารพื้นที่ 1 ไร่ได้อย่างคุ้มค่า ค่อย ๆ พัฒนาสวนทีละโซนไปเรื่อย ๆ จนเริ่มลงตัว นอกจากนี้ก่อนจะประสบความสำเร็จในการปลูกแบล็คเบอร์รี่ในภาคอีสาน พี่แจ็คยังได้ศึกษาและพัฒนาสายพันธุ์ด้วยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อให้ได้ต้นแบล็คเบอร์รี่ที่แข็งแรง ทนสภาพอากาศร้อน และเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่แห้งแล้ง
การเตรียมดินให้เหมาะสำหรับปลูกแบล็คเบอร์รี่
ก่อนเริ่มปลูกแบล็คเบอร์รี่ พี่แจ็คพบว่าพื้นที่สวนมีปัญหาเรื่องสภาพดินจึงเริ่มต้นด้วยการปรับปรุงดินใหม่ โดยทำแปลงทดลองจำนวน 5 แปลงแรก และยกแปลงปลูกให้สูงขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาน้ำขังซึ่งแบล็คเบอร์รี่ไม่ชอบน้ำขัง
หลังจากยกแปลงเรียบร้อย พี่แจ็คนำแกลบและวัสดุอินทรีย์ต่าง ๆ มาผสมในดินเพื่อเพิ่มความร่วนซุย เมื่อต้นแบล็คเบอร์รี่เริ่มตั้งตัวได้และเจริญเติบโตจึงเริ่มเสริมด้วยปุ๋ยหมัก โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตเองจากสูตรวิศวกรรมแม่โจ้ เพื่อบำรุงดินให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ พี่แจ็คยังใช้เทคนิคการรักษาความชื้นในดินด้วยวิธีปล่อยให้หญ้าคลุมหน้าดิน และตัดหญ้าเป็นระยะ หญ้าที่ตัดแล้วจะช่วยคลุมดิน รักษาความชื้น และยังสลายกลายเป็นปุ๋ยธรรมชาติ ช่วยให้ต้นแบล็คเบอร์รี่แข็งแรงและเติบโตได้ดี โดยหญ้าที่ขึ้นในสวนไม่ได้เป็นอุปสรรคในการปลูกแต่อย่างใด แต่กลับกลายเป็นผู้ช่วยสำคัญในการพัฒนาดินอย่างยั่งยืน
ต้นแบล็คเบอร์รี่ใช้เวลานานไหมกว่าจะให้ผลผลิต

หลังจากเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อในห้องแลป ต้นแบล็คเบอร์รี่จะถูกนำมาอนุบาลต่ออีกประมาณ 2 เดือน ก่อนย้ายลงปลูกในแปลงจริง เมื่อปลูกลงดินแล้วต้นแบล็คเบอร์รี่จะใช้เวลาประมาณ 7-8 เดือนในการเริ่มให้ผลผลิต ซึ่งสามารถเริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่ปีแรกของการปลูก
แบล็คเบอร์รี่เป็นพืชที่สามารถให้ผลผลิตได้เกือบตลอดทั้งปี แต่จะมีช่วงพักต้นที่เรียกว่า “การทำสาว” โดยจะปล่อยให้ต้นหยุดติดผลชั่วคราวและทำการตั้งกิ่งใหม่เพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงของต้น เมื่อฟื้นตัวดีแล้วจึงเริ่มปล่อยให้ติดผลอีกครั้ง ทำให้ต้นมีความสมบูรณ์และสามารถให้ผลผลิตได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว
ในแต่ละรอบการเก็บผลผลิตจะเก็บทุก ๆ 3 วัน และหลังจากเก็บแล้วจะรีบนำไปจัดส่งทันทีเพื่อรักษาคุณภาพและอุณหภูมิ เนื่องจากผลแบล็คเบอร์รี่มีอายุการเก็บรักษาอยู่ที่ประมาณ 3-7 วัน
โรคและแมลงที่พบในการปลูกแบล็คเบอร์รี่
ต้นแบล็คเบอร์รี่ที่ปลูกผ่านการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อและพัฒนาสายพันธุ์ให้แข็งแรงจึงพบปัญหาโรคค่อนข้างน้อย แต่ในช่วงหน้าฝน อาจพบปัญหาเชื้อราขึ้นตามใบและโคนต้น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ วิธีป้องกันคือคอยตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง และตัดใบแก่บริเวณโคนต้นอยู่เสมอ เพื่อลดความชื้นและลดโอกาสเกิดเชื้อรา
สำหรับแมลงศัตรูพืช ลูกแบล็คเบอร์รี่แทบไม่เจอปัญหาแมลงกัดกิน แต่จะมีนกที่มากินผลสุกบ้าง ที่ฟาร์มจึงป้องกันด้วยการกางตาข่ายคลุมแปลงปลูก นอกจากนี้ยังมีหนอนที่กัดกินใบบ้างแต่ไม่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตมากนักและถือเป็นการช่วยตัดแต่งกิ่งไปในตัว เพราะกิ่งที่ให้ผลผลิตแล้วมักจะทิ้งใบอยู่แล้ว หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตทุกครั้ง ฟาร์มจะทำการตัดแต่งกิ่งเพื่อกระตุ้นการแตกกิ่งใหม่และรักษาความสมบูรณ์ของต้นอย่างสม่ำเสมอ
เทคนิคการรดน้ำต้นแบล็คเบอร์รี่
หากไม่ใช่ช่วงฤดูฝนการรดน้ำต้นแบล็คเบอร์รี่จะทำเพียงวันละ 1 ครั้ง โดยรดน้ำให้ดินมีความชุ่มชื้นพอดีไม่แฉะจนเกินไป สำหรับการให้น้ำในฟาร์ม แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ ใช้ระบบน้ำพุ่งในพื้นที่ที่วางระบบน้ำไว้ตั้งแต่เริ่มต้น และใช้สายยางรดน้ำในบริเวณที่ยังไม่ได้ติดตั้งระบบ ทั้งนี้ด้วยการวางแผนระบบน้ำตั้งแต่เริ่มทำสวน ทำให้สามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพและสม่ำเสมอ
การต่อยอดจากสวนแบล็คเบอร์รี่ สู่คาเฟ่และสวนโรสแมรี่
นอกจากการปลูกแบล็คเบอร์รี่ พี่แจ็คยังได้ต่อยอดธุรกิจในฟาร์มด้วยการเปิดคาเฟ่ควบคู่ไปกับการปลูกพืชสมุนไพรฝรั่งอย่างโรสแมรี่และมิ้นท์ หลังจากประสบความสำเร็จในการปลูกแบล็คเบอร์รี่ พี่แจ็คเริ่มทดลองปลูกโรสแมรี่เพิ่มเติมและพบว่าปลูกได้ดีในสภาพอากาศของพื้นที่ ฟาร์มจึงได้กลิ่นหอมสดชื่นของโรสแมรี่ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย
เมื่อสวนโรสแมรี่เริ่มลงตัวมีลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมฟาร์ม และได้แนะนำให้นำโรสแมรี่ไปจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าเช่นเดียวกับแบล็คเบอร์รี่ จึงกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้เสริมให้กับฟาร์ม
แนวทางการปลูกแบล็คเบอร์รี่ ปลูกกินเองหรือปลูกสร้างรายได้
สำหรับผู้ที่สนใจปลูกแบล็คเบอร์รี่ไว้รับประทานเองแนะนำให้ปลูกเพียง 1-2 ต้นก็เพียงพอ เนื่องจากต้นแบล็คเบอร์รี่มีทรงพุ่มที่ค่อนข้างกว้างและยาว โดยพุ่มหนึ่งจะมีขนาดประมาณ 2-4 เมตร หากต้องการปลูกหลายต้น ควรเว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 1.5-2 เมตร และควรควบคุมให้ทรงพุ่มมีความยาวไม่เกิน 2 เมตร เพื่อให้ดูแลง่ายและต้นไม้ได้รับแสงอย่างทั่วถึง แต่หากตั้งใจปลูกแบล็คเบอร์รี่เพื่อสร้างรายได้ แนะนำให้ปลูกในพื้นที่ประมาณ 2 งาน หรือประมาณ 200 ต้น เพื่อให้ได้ผลผลิตในระดับเชิงพาณิชย์ ซึ่งสามารถบริหารจัดการได้ง่ายและคุ้มค่าต่อการลงทุน
หากสนใจต้นพันธุ์หรือเทคนิคการปลูกเบอร์รี่จากสวนแจ็คเบอรี่ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 080-208-9539
Facebook : แจ๊ค วิทยา ฦาชา , สวนหลังบ้าน
………………………………………
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :
𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร
𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn
𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn
𝗦𝗵𝗼𝗽𝗲𝗲: shopee.co.th/kasetsanjorn
𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹: @kasetsanjorn
𝗕𝗹𝗼𝗰𝗸𝗱𝗶𝘁: blockdit.com/kasetsanjorn/
𝗧𝘄𝗶𝘁𝘁𝗲𝗿: twitter.com/kasetsanjorn/
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: kasetsanjorn.com