จุดเริ่มต้นของวานิลลาไทย จากการลองผิดลองถูก สู่เส้นทางเกษตรมูลค่าสูง
ใครจะคิดว่าวานิลลาที่เคยเป็นพืชนำเข้าจากต่างประเทศ ปัจจุบันสามารถเติบโตได้ในแผ่นดินไทย และไม่ใช่แค่ปลูกได้เท่านั้น แต่กำลังก้าวสู่การเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูง สามารถเปลี่ยนชีวิตเกษตรกรไทยได้
คุณกวาง (พาพร โตอินทร์) เจ้าของสวนแม่หม่อน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา คือผู้บุกเบิกที่เห็นศักยภาพของวานิลลาไทย ไม่เพียงแต่ปลูกพืชที่หลายคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ยังสร้างแบรนด์วานิลลาระดับประเทศที่พร้อมแข่งขันในตลาดโลก จากฝักวานิลลาสู่ผลิตภัณฑ์แปรรูปที่เพิ่มมูลค่าได้หลายเท่าตัว ไม่ว่าจะเป็นสารสกัด ผงวานิลลา เครื่องดื่ม ไปจนถึงไอศกรีม ปัจจุบันฟาร์มแห่งนี้ยังเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับคนรุ่นใหม่ พร้อมสร้างเครือข่ายเศรษฐกิจชุมชนที่ยั่งยืน
เป้าหมายของคุณกวางคือการผลักดันวานิลลาไทยให้สามารถส่งออกได้ในฐานะวานิลลาคุณภาพสูง ไม่ใช่เพียงแค่เป็นสินค้าเกรดราคาถูก จากวานิลลากว่า 100 สายพันธุ์ทั่วโลก ฟาร์มแห่งนี้เลือกปลูกสายพันธุ์ที่ให้สารวานิลลินสูงที่สุด ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ธรรมชาติที่ทำให้วานิลลามีกลิ่นและรสชาติเป็นเอกลักษณ์ และวานิลลามากกว่า 90% ในตลาดโลกเป็นสายพันธุ์นี้ คุณกวางจึงมองว่า การเลือกปลูกสายพันธุ์ที่มีตลาดกว้างจะช่วยให้วานิลลาไทยก้าวไกลในระดับสากล
ในช่วงแรกของการเพาะปลูก 2-3 ปีแรก เต็มไปด้วยการลองผิดมากกว่าการลองถูก เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับปริมาณแสงที่เหมาะสม ทิศทางการวางแปลง ระยะห่างระหว่างต้น วิธีใส่ปุ๋ย และการควบคุมโรค แต่ทุกปัญหาที่พบเจอ ไม่เคยถูกปล่อยผ่านโดยไม่มีคำตอบ คุณกวางใช้วิธีวิเคราะห์ หาสาเหตุ และแก้ไขอย่างเป็นระบบ เพื่อลดข้อผิดพลาดในอนาคต
จากสวนหม่อนสู่วานิลลา การปรับตัวเพื่อความยั่งยืนและเกษตรเชิงท่องเที่ยว
สวนแม่หม่อนเริ่มต้นจากการปลูกหม่อนมาตั้งแต่ 13 ปีที่แล้ว โดยเปิดเป็นสวนเชิงท่องเที่ยวให้ลูกค้าเข้ามาเก็บผลผลิตสด ๆ ได้เอง อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป คุณกวาง เริ่มมองหาพืชชนิดใหม่ที่จะเพิ่มความหลากหลายให้กับสวน ไม่อยากจำกัดเพียงแค่หม่อนเท่านั้น
ก่อนจะเลือกปลูกวานิลลา คุณกวางได้พิจารณาหลายทางเลือก เช่น อะโวคาโด หรือพืชตระกูลเบอร์รี่ แต่มีโจทย์สำคัญที่ต้องคำนึงถึง ได้แก่
1. ต้องสามารถเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้
2. เป็นไม้ผลที่สามารถเก็บรักษาผลผลิตได้นาน เพราะหม่อนมีปัญหาเรื่องการขนส่งผลสด
3. ดูแลง่าย ไม่ยุ่งยาก และใช้พื้นที่ไม่มาก เนื่องจากฟาร์มมีแรงงานจำกัด
4. สามารถทำตลาดในรูปแบบ Mass Product ได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว
เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติต่าง ๆ แล้ว วานิลลาจึงเป็นคำตอบที่ลงตัวที่สุดสำหรับสวนแม่หม่อน นอกจากจะเพิ่มความน่าสนใจให้กับฟาร์มแล้ว ยังช่วยให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาวอีกด้วย
เส้นทางสู่ความสำเร็จของการปลูกวานิลลา
คุณกวางเริ่มต้นปลูกวานิลลาในโรงเรือน โดยใช้เสาหลักประมาณ 200-300 หลัก (โดยนับเสาเป็น 1 หลัก) ปัจจุบัน วานิลลาที่ปลูกมีอายุประมาณ 6 ปี
ด้วยพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เมื่อพบอุปสรรคและปัญหาในการปลูกวานิลลาจะไม่ปล่อยผ่าน แต่เลือกค้นหาสาเหตุเพื่อให้สามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุด ซึ่งช่วยให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนากระบวนการปลูกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
กว่าจะประสบความสำเร็จในการปลูกวานิลลา ต้องใช้เวลากว่า 3 ปี ในช่วง 1-3 ปีแรก ยังไม่สามารถสร้างรายได้ เนื่องจากต้องเรียนรู้ทั้งกระบวนการปลูก การเพิ่มผลผลิตให้เพียงพอ และการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวเพื่อให้ได้คุณภาพดีที่สุด
หนึ่งในอุปสรรคสำคัญที่พบในช่วง 1-2 ปีแรก คือปัญหารากเน่าและโคนเน่า จึงหาทางแก้ไขโดยศึกษาข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกกล้วยไม้ และซื้อหนังสือเกี่ยวกับกล้วยไม้มาศึกษาเพิ่มเติม เพื่อนำแนวทางมาปรับใช้กับวานิลลาให้ได้ผลดีที่สุด มีการบันทึก ทดลอง และติดตามผลอย่างต่อเนื่อง จนสามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จ การเรียนรู้จากประสบการณ์และการลงมือแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ทำให้สามารถปลูกวานิลลาได้อย่างมั่นคง และพัฒนาต่อไปสู่การสร้างรายได้อย่างยั่งยืน
เคล็ดลับการดูแลวานิลลา จากการปลูกสู่การผสมเกสรเพื่อผลผลิตที่ดี
หากใช้ต้นพันธุ์ที่ดีและดูแลอย่างเหมาะสม วานิลลาจะเริ่มให้ผลผลิตภายใน 1 ปี อย่างไรก็ตาม ในช่วงปีแรกผลผลิตยังมีปริมาณน้อย และจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามอายุของต้น โดยทั่วไปผลผลิตจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปีที่ 6
เนื่องจากวานิลลามีอัตราการผสมเกสรตามธรรมชาติที่ต่ำมาก จึงต้องใช้วิธีช่วยผสมเกสรทุกดอก เพื่อให้สามารถติดฝักได้สำเร็จ อุปกรณ์ที่ใช้ในการผสมเกสร ได้แก่ เข็ม หรือไม้จิ้มฟัน โดยวิธีการคือ ค่อย ๆ เปิดกลีบดอกเพื่อให้เห็นเกสรตัวเมีย จากนั้นใช้อุปกรณ์งัดแผ่นปิดที่ปลายเกสรขึ้น เพื่อเปิดทางให้เกสรตัวผู้สามารถเข้าผสมกับเกสรตัวเมียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการดูแลและผสมเกสรอย่างถูกวิธี จะช่วยให้วานิลลาให้ผลผลิตที่มีคุณภาพและเพิ่มปริมาณขึ้นตามรอบการเติบโต
เพิ่มมูลค่าวานิลลา จากการปลูกสู่การแปรรูปเพื่อสร้างรายได้หลายเท่า
ฝักวานิลลาสดที่เก็บมาใหม่ ๆ จะยังไม่มีกลิ่นหอม จำเป็นต้องผ่านกระบวนการบ่ม ซึ่งใช้เวลาขั้นต่ำ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละฟาร์ม เมื่อนำไปบ่มจนสมบูรณ์ ฝักวานิลลาจะสามารถใช้โดยการขูดเอาเมล็ดเล็ก ๆ ด้านใน หรือที่เรียกว่า วานิลลาคาเวียร์ ออกมา
การปลูกวานิลลาเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ หากต้องการเพิ่มมูลค่าจำเป็นต้องมีการแปรรูป คุณกวางจึงไม่ได้จำหน่ายแค่ฝักวานิลลา แต่เลือกนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้หลายเท่าตัว ด้วยเทคนิคการหมักและบ่มเพื่อให้ได้วานิลลาคุณภาพพรีเมียม
ราคาของฝักวานิลลาที่ผ่านการบ่มอยู่ที่ประมาณ 100-200 บาทต่อฝัก ขึ้นอยู่กับขนาด หากขายเป็นกิโลกรัม ราคาจะอยู่ที่ 10,000-20,000 บาท นอกจากนี้ หากต้องการเพิ่มมูลค่าให้มากขึ้น สามารถนำวานิลลาไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ไอศกรีมวานิลลา ซึ่งกลายเป็นสินค้าขึ้นชื่อของฟาร์ม
เทคนิคการขยายพันธุ์วานิลลา ปักชำกิ่งให้เติบโตแข็งแรง พร้อมลงแปลงปลูก
การขยายพันธุ์วานิลลานิยมใช้วิธีปักชำ โดยเลือกเถาที่สมบูรณ์ อวบใหญ่ จากแปลงที่แข็งแรง แล้วตัดเป็นท่อนให้มีความยาวประมาณ 4 ข้อ ก่อนนำไปปักชำลงในวัสดุปลูกที่เตรียมไว้
สำหรับวัสดุปลูก ใช้กาบมะพร้าวสับเพียงอย่างเดียวโดยไม่ใช้ดิน เนื่องจากวานิลลาอยู่ในตระกูลเดียวกับกล้วยไม้ ซึ่งต้องการการระบายน้ำที่ดี เมื่อต้นออกรากและเริ่มเจริญเติบโตแล้ว ควรใส่ปุ๋ยหมักเพื่อบำรุงต้นให้แข็งแรง ก่อนย้ายลงแปลงปลูก
การเตรียมพื้นที่ปลูกวานิลลา
- เตรียมเสาให้เถาวานิลลาเกาะ โดยใช้เสาหลักสำหรับให้ต้นวานิลลาเลื้อยขึ้นไป
- จัดทำกระถางระบายน้ำ โดยใช้อิฐบล็อกหรือตาข่ายล้อมรอบเพื่อให้ระบายน้ำได้ดี
- ใช้กาบมะพร้าวสับเป็นวัสดุปลูก แนะนำให้ใช้กาบมะพร้าวสับหยาบ เพื่อช่วยให้รากเกาะตัวได้ดี
- เลือกต้นพันธุ์ที่เหมาะสม ซึ่งควรเลือกกิ่งพันธุ์ที่ยอดยาวประมาณ 1 ฟุต
- ขุดหลุมด้านข้างเสา กรีดถุงต้นกล้าออกและระวังไม่ให้รากเสียหาย แล้วจึงลงปลูก พร้อมกลบด้วยขุยมะพร้าวสับ
- จัดระยะห่างระหว่างต้น โดยเว้นระยะห่างระหว่างต้นอย่างน้อย 1 เมตร ใช้เชือกมัดต้นให้ติดกับเสา และรดน้ำให้ชุ่ม
จากฟาร์มสู่ศูนย์เรียนรู้ วิสาหกิจชุมชนวานิลลาวังน้ำเขียว สร้างโอกาสให้เกษตรกรไทย
นอกจากการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า คุณกวางยังมุ่งมั่นแบ่งปันความรู้ด้านการปลูกวานิลลา โดยก่อตั้งศูนย์เรียนรู้เปิดโอกาสให้คนไทยได้เรียนรู้และทดลองปลูกวานิลลาอย่างถูกต้อง พร้อมจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนวานิลลาวังน้ำเขียว เพื่อเป็นเครือข่ายแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างผู้ที่สนใจและเกษตรกรที่ต้องการปลูกวานิลลาอย่างยั่งยืน
หนึ่งในสมาชิกของวิสาหกิจชุมชน พี่สกล ตัดสินใจปลูกวานิลลาเพราะเป็นพืชที่ไม่ต้องใช้ดิน ซึ่งช่วยลดปัญหาที่เกิดจากดินเสื่อมสภาพหรือไม่เหมาะสม พี่สกลรู้จักคุณกวางผ่านเครือข่ายสมาชิกวังน้ำเขียว และเริ่มต้นปลูกวานิลลาได้ 3 ปีแล้ว โดยสามารถเก็บดอกและให้ผลผลิตตั้งแต่ปีที่ 2 หลังจากเก็บเกี่ยว และผลผลิตสามารถจำหน่ายได้ทันที เนื่องจากมีตลาดรองรับ
การรวมตัวเป็น วิสาหกิจชุมชน ไม่เพียงช่วยให้เกษตรกรมีเครือข่าย แต่ยังสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับการปลูกวานิลลา คุณกวางเน้นให้สมาชิกไม่เพียงแค่ปลูกเพราะกระแสหรือรอให้มีคนมารับซื้อเท่านั้น แต่ต้องสามารถปลูกเองได้ ขายเองเป็น การรวมกลุ่มช่วยให้สมาชิกสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ลดการลองผิดลองถูก และพัฒนากระบวนการปลูกวานิลลาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
คาเฟ่วานิลลาที่มากกว่าความหอมหวาน สร้างโอกาสให้ชุมชน
ภายในสวนแม่หม่อน มีคาเฟ่ที่โดดเด่นด้วยไอศกรีมวานิลลาโฮมเมดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นรสเพียววานิลลา ที่เผยความหอมแท้จากวานิลลาคุณภาพพรีเมียม วานิลลาชาไทย ที่ผสานรสชาติกลมกล่อมของชาไทยเข้ากับความละมุนของวานิลลา และวานิลลาลาเต้ ที่เติมเต็มความหอมของกาแฟจากชุมชนให้เข้ากันอย่างลงตัว นอกจากไอศกรีมวานิลลาแล้ว ยังมีไอศกรีมรสผลไม้ที่ใช้ผลผลิตจากเกษตรกรภายในชุมชน เพื่อสนับสนุนสินค้าท้องถิ่นและสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกรรายย่อย
นอกจากไอศกรีม คาเฟ่ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากวานิลลาที่ผ่านกระบวนการพัฒนาคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นฝักวานิลลาบ่มที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ สารสกัดวานิลลาสำหรับใช้ในขนมและเครื่องดื่ม รวมไปถึงไซรัปวานิลลา ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกิดจากการพัฒนาร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับวานิลลาและสร้างโอกาสทางการตลาดให้กว้างขึ้น
ฟาร์มไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ปลูกวานิลลา แต่ยังเป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือเกษตรกรในกลุ่ม ตั้งแต่การให้ความรู้เรื่องการปลูก การแปรรูป ไปจนถึงการวางแผนตลาด เพื่อให้เกษตรกรสามารถผลิตและจำหน่ายสินค้าได้อย่างมั่นคง ภายในคาเฟ่ยังเปิดพื้นที่ให้สินค้าจากชุมชนมาวางจำหน่าย เป็นการช่วยเหลือกันและกันให้เติบโตไปพร้อมกัน
คาเฟ่เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. ที่นี่จึงไม่ใช่แค่สถานที่นั่งดื่มกาแฟหรือทานขนม เพียงอย่างเดียว แต่เป็นจุดนัดพบของคนที่รักวานิลลาและต้องการสนับสนุนเกษตรกรไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
จากต้นกล้าวานิลลาสู่เมล็ดพันธุ์แห่งอนาคต
ตลอดระยะเวลา 6-7 ปีในการปลูกวานิลลา คุณกวางมองว่าความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลจากการสั่งสมประสบการณ์ตลอดชีวิต การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ต้องคอยเก็บเกี่ยวความรู้ทีละเล็กทีละน้อย และรอจังหวะนำออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เส้นทางการเติบโตของฟาร์มวานิลลาไม่ได้ราบรื่นเสมอไป จากจุดเริ่มต้นที่ทำสวนหม่อนเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อพบว่าการไม่มีคาเฟ่รองรับอาจไม่เพียงพอ คุณกวางจึงเลือกปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา คุณกวางไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นเพียงเกษตรกร แต่เป็นนักธุรกิจที่ต้องบริหารจัดการและพัฒนาให้สวนวานิลลาเติบโตอย่างมั่นคง
การปลูกวานิลลาไม่ใช่แค่การเพาะปลูกพืชชนิดหนึ่ง แต่เป็นการหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคต ที่จะทำให้วานิลลาไทยมีคุณค่าเกินกว่าราคา และเปิดเส้นทางใหม่ให้เกษตรกรทั่วประเทศได้เห็นโอกาสในการสร้างอาชีพที่ยั่งยืน คุณกวางจึงเป็นเกษตรกรที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่การลงมือทำ แต่ยังคิดให้ไกล มองให้กว้าง และแบ่งปันแนวทางเพื่อเติบโตไปด้วยกัน
สามารถรับชมรายการ “ยัง (Young) สามารถ” ที่ Link
สนับสนุนโดย #กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
#ยังสามารถ #YoungSmartFarmer #วานิลลา #พืชเศรษฐกิจ #วานิลลาไทย #วิสาหกิจชุมชน #สวนแม่หม่อน #เกษตรสัญจร
………………………………………
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :
𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร
𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn
𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn
𝗦𝗵𝗼𝗽𝗲𝗲: shopee.co.th/kasetsanjorn
𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹: @kasetsanjorn
𝗕𝗹𝗼𝗰𝗸𝗱𝗶𝘁: blockdit.com/kasetsanjorn/
𝗧𝘄𝗶𝘁𝘁𝗲𝗿: twitter.com/kasetsanjorn/
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: kasetsanjorn.com