พี่บอล เจษฎา จันทร์เงิน เกษตรกรเจ้าของสวนแมคาเดเมีย อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ อดีตโปรแกรมเมอร์ที่ผันตัวมาทำสวนแมคาเดเมีย โดยทั้งปลูกทั้งแปรรูปแมคาเดเมียจำหน่ายแบบครบวงจร ในชื่อแบรนด์ เจ้าอินทร์
ที่มาของชื่อแบรนด์เจ้าอินทร์และจุดเริ่มต้นในการทำสวนแมคาเดเมีย


พี่บอล เจษฎา จันทร์เงิน เกษตรกรเจ้าของสวนแมคาเดเมีย อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ “เจ้าอินทร์ แมคาเดเมีย” ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากลูกชายชื่อน้องอินทร์ โดยพี่บอลเคยทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ในกรุงเทพฯ นานกว่า 13 ปี ก่อนตัดสินใจกลับมาทำเกษตรที่บ้านเกิด
ที่บ้านของพี่บอลทำสวนลิ้นจี่และพืชหมุนเวียนอยู่แล้ว ประกอบกับมีการส่งเสริมการปลูกแมคาเดเมียในพื้นที่ และได้รับคำแนะนำจากน้าที่ทำงานด้านวิจัยเกษตรพื้นที่สูง จึงเริ่มทดลองปลูกแมคาเดเมียประมาณ 100 ต้น ซึ่งเป็นพืชที่ดูแลง่าย เมื่อแมคาเดเมียให้ผลผลิต ได้นำมาแปรรูปและวางจำหน่ายตามร้านขายของฝาก แม้ในช่วงแรกจะยังไม่ได้ทำการตลาดจริงจัง
การมีครอบครัวและความต้องการให้ลูกเติบโตท่ามกลางธรรมชาติเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้พี่บอลตัดสินใจลาออกจากงานประจำ กลับมาสานต่อสวนแมคาเดเมียที่บ้านเต็มตัว โดยดูแลตั้งแต่การปลูกไปจนถึงการแปรรูปครบวงจร สร้างรายได้อย่างยั่งยืน
จุดเริ่มต้นสู่เส้นทางเกษตรแมคาเดเมียครบวงจร


หลังจากที่พี่บอลกลับมาทำเกษตรที่บ้าน พี่บอลได้ศึกษาวิธีการทำสวนแมคาเดเมียอย่างจริงจัง โดยเรียนรู้ขั้นตอนการแปรรูป ตั้งแต่การกระเทาะเปลือก ไปจนถึงการอบแห้งจากน้าที่มีประสบการณ์ ในปีแรกได้เริ่มจำหน่ายแมคาเดเมียผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีและเริ่มมีรายได้เข้ามา
เมื่อธุรกิจเริ่มเติบโต พี่บอลจึงหันมาดูแลสวนอย่างเต็มตัว ทั้งการตัดหญ้า ใส่ปุ๋ย และแต่งกิ่ง ส่งผลให้ปีที่สองผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังเริ่มรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น โดยเน้นการรักษาคุณภาพให้สดใหม่ ไม่เหม็นหืน
แม้จะเจอความท้าทายในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ยอดขายลดลง แต่พี่บอลได้ปรับตัวด้วยการขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านกลุ่มศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งได้รับการตอบรับดีเกินคาดจนผลิตไม่ทัน ความสำเร็จนี้ทำให้กิจการเติบโตอย่างต่อเนื่อง พี่บอลจึงตัดสินใจขยายพื้นที่เพาะปลูกและเพิ่มการรับซื้อจากเกษตรกรในชุมชน เพื่อช่วยสร้างรายได้และส่งเสริมเศรษฐกิจในท้องถิ่นไปพร้อมกัน
ต่อยอดความสำเร็จ ด้วยความร่วมมือจากภาครัฐและการพัฒนาผลิตภัณฑ์


หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย พี่บอลได้เริ่มนำผลิตภัณฑ์แมคาเดเมียออกบูธตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ซึ่งเปิดโอกาสให้ได้รู้จักกับผู้ประกอบการรายอื่น ๆ และได้รับคำแนะนำให้ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อขอรับการสนับสนุนและคำปรึกษาในการพัฒนาธุรกิจ
พี่บอลได้ติดต่อหน่วยงานอย่าง กระทรวงพาณิชย์ และ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อขอคำแนะนำในการยกระดับผลิตภัณฑ์ ทั้งด้านคุณภาพ มาตรฐานการผลิต และการจดทะเบียน โอทอป (OTOP) ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและขยายช่องทางการจำหน่ายให้กว้างขึ้น
พี่บอลมองว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้การทำเกษตรประสบความสำเร็จ นอกจากความมุ่งมั่นแล้ว คือ การมีเครือข่ายสนับสนุนที่แข็งแกร่ง ทั้งการให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ช่วยเติมเต็มให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
เทคนิคการปลูกแมคาเดเมียให้ได้ผลผลิตคุณภาพ


แมคาเดเมียถูกนำเข้ามาในประเทศไทยเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว โดยมีการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกในพื้นที่สูงระดับ 400-1,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล พบการปลูกมากใน ภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ตาก น่าน แม่ฮ่องสอน และ ภาคอีสาน ในพื้นที่ อ.ภูเรือ จ.เลย และ จ.ชัยภูมิ
การขยายพันธุ์แมคาเดเมียมักใช้วิธี เสียบยอด และ ทาบกิ่ง ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การเสียบยอดช่วยให้รากตรง ต้นแข็งแรง โตเร็วกว่า แต่มีอัตราความสำเร็จเพียงประมาณ 50% ในขณะที่การทาบกิ่งมีอัตราการรอดสูงกว่า แต่รากอาจงอ ส่งผลให้ต้นเติบโตช้าลง นอกจากนี้ การวางระยะปลูกก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ หากเป็นพื้นที่ราบ ควรเว้นระยะประมาณ 10 x 10 เมตร เพื่อให้ต้นไม้ได้รับแสงแดดอย่างทั่วถึง แต่หากเป็นพื้นที่ลาดชัน จะปลูกในระยะ 8 x 8 เมตร เพื่อให้รากยึดเกาะดินได้ดีขึ้นและป้องกันการชะล้างหน้าดิน
หนึ่งในเทคนิคสำคัญที่ช่วยให้ต้นแมคาเดเมียเจริญเติบโตได้ดีคือการจัดการระบบน้ำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง พี่บอลมีวิธีแก้ปัญหาโดยการนำต้นแมคาเดเมียไปปลูกใต้ร่มเงาของต้นกล้วยในช่วงสองปีแรก เพื่อช่วยรักษาความชื้นและป้องกันการขาดน้ำ หลังจากต้นแมคาเดเมียแข็งแรงขึ้นจึงย้ายออกไปปลูกกลางแจ้งได้ การมีระบบน้ำที่มีประสิทธิภาพจะช่วยลดความเสี่ยงจากภัยแล้งและเพิ่มโอกาสในการให้ผลผลิตเร็วขึ้น
แมคาเดเมียจะเริ่มให้ผลผลิตเมื่ออายุประมาณ 8-9 ปี หากอาศัยน้ำฝนตามธรรมชาติ แต่หากมีการบริหารจัดการน้ำที่ดี สามารถให้ผลผลิตครั้งแรกได้ในช่วง 5-6 ปี พี่บอลยังมีเทคนิคเสริมคือ เมื่อต้นแมคาเดเมียออกดอกในปีแรก จะทำการเด็ดดอกทิ้งทั้งหมด เพื่อให้ต้นสะสมอาหารและมีความแข็งแรงเต็มที่ก่อนจะไว้ผลในปีถัดไป ระยะเวลาตั้งแต่ออกดอกจนถึงการเก็บเกี่ยวจะอยู่ที่ประมาณ 7-9 เดือน ขึ้นอยู่กับความสูงของพื้นที่และสภาพอากาศในแต่ละปี
การป้องกันและจัดการศัตรูพืชในการปลูกแมคาเดเมีย


แมคาเดเมียเป็นพืชที่มีความทนทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืชสูง โรคที่พบได้บ้างคือ โรคเชื้อรา และ โรคใบไหม้ ซึ่งมักเกิดในช่วงฤดูฝนหรือสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง อย่างไรก็ตาม โรคเหล่านี้มักไม่ส่งผลกระทบร้ายแรง และสามารถป้องกันได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมี การดูแลรักษาความสะอาดในแปลงปลูก การตัดแต่งกิ่งเพื่อเพิ่มการระบายอากาศ และการจัดการน้ำอย่างเหมาะสม เป็นวิธีสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรค
ศัตรูพืชที่สร้างความเสียหายต่อผลผลิตแมคาเดเมียส่วนใหญ่จะเป็น สัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระรอก รวมถึง ด้วงเจาะผล ซึ่งเข้าทำลายเปลือกและเนื้อในของผลแมคาเดเมีย แม้ว่าความเสียหายจากศัตรูธรรมชาติเหล่านี้จะมีอยู่บ้าง แต่ถือว่าเป็นส่วนน้อยและสามารถจัดการได้ โดยใช้วิธีการเกษตรแบบผสมผสาน
กระบวนการเก็บเกี่ยวและแปรรูปแมคาเดเมียเพื่อคุณภาพสูงสุด


การเก็บเกี่ยวแมคาเดเมียจะเริ่มเมื่อผลแก่จัด โดยผลสุกจะหล่นลงพื้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งช่วงเวลาที่ผลผลิตเริ่มหล่นมากที่สุดอยู่ระหว่าง ปลายเดือนเมษายนถึงสิงหาคม หลังจากติดดอกประมาณ 7-8 เดือน ในช่วงนี้มักตรงกับฤดูฝน จึงควรเก็บผลแมคาเดเมียที่หล่นทุกวันหรือวันเว้นวัน เพื่อป้องกันความชื้นสะสมที่อาจทำให้ผลเน่าเสีย
ผลแมคาเดเมียมีเปลือก 2 ชั้น ชั้นนอกเป็นเปลือกสีเขียวอ่อน ส่วนด้านในเป็นกะลาแข็ง การจัดการผลผลิตเริ่มจากการนำผลที่เก็บได้มาผ่านกระบวนการกระเทาะเปลือกสีเขียวออก จากนั้นนำกะลาไปผึ่งลมให้แห้งเพื่อลดความชื้น การรวบรวมผลผลิตจะทำเมื่อมีปริมาณครบ 1 ตัน ก่อนนำไปเข้าตู้อบที่ดัดแปลงจากเตาอบลำไย อบด้วยอุณหภูมิ 40-50 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2 วัน เพื่อไล่ความชื้นช่วยให้กะลาแตกง่ายและทำให้เนื้อในแยกออกจากเปลือกได้สะดวกขึ้น
เมื่อกระเทาะกะลาออกจนได้เมล็ดแมคาเดเมีย จะมีการคัดแยกตามคุณภาพโดยใช้แรงงานในชุมชน เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ หลังจากคัดแยกแล้ว เมล็ดที่ได้จะถูกเก็บไว้ในห้องเย็น เพื่อรักษาคุณภาพและความสดใหม่
ก่อนนำออกจำหน่าย แมคาเดเมียจะผ่านกระบวนการอบอีกครั้งด้วยเตาอบไฟฟ้าโดยใช้เวลาประมาณ 3 วัน เพื่อให้เมล็ดมีความกรอบ หอม หวานมัน จากนั้นจึงนำมาบรรจุภัณฑ์อย่างดีเพื่อรักษาคุณภาพและพร้อมส่งถึงมือผู้บริโภค
หากสนใจเทคนิคการปลูกแมคาเดเมียจากสวนเจ้าอินทร์ หรือผลิตภัณฑ์แมคคาเดเมีย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 092-515-3636
Facebook : เจ้าอินทร์สะเมิง
………………………………………
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :
𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร
𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn
𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn
𝗦𝗵𝗼𝗽𝗲𝗲: shopee.co.th/kasetsanjorn
𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹: @kasetsanjorn
𝗕𝗹𝗼𝗰𝗸𝗱𝗶𝘁: blockdit.com/kasetsanjorn/
𝗧𝘄𝗶𝘁𝘁𝗲𝗿: twitter.com/kasetsanjorn/
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: kasetsanjorn.com