ก่อนที่จะมาทำเกษตรเต็มตัวได้ทำอะไรมาก่อน ?


จ.ส.อ. สมชาติ กิ่งสะแกราช เจ้าของไร่เปี่ยมสุข อ.วังทอง จ.พิษณุโลก หรือ จ่าชาติ เคยรับราชการทหารและได้ดูแลศูนย์การเรียนรู้โดยได้ดูแลฟาร์มไก่ ฟาร์มหมู และบริเวณรอบ ๆ ฟาร์มได้ทีการปลูกไผ่ไปด้วย จึงสนใจการปลูกไผ่และได้นำมาทดลองปลูกในสวนตัวเองควบคู่ไปด้วยบนพื้นที่เล็ก ๆ ประมาณ 3 ไร่ จนปัจจุบันจ่าชาติได้ตัดสินใจลาออกจากราชการและหันมาทำสวนไผ่เป็นเกษตรกรเต็มตัว เป็นการต่อยอดและสร้างรายได้ให้โตขึ้น
ในช่วงเริ่มต้นทำเกษตรมีปัญหาและอุปสรรค์อะไรบ้าง ?


ปัญหาหลักที่พบในช่วงแรก ๆ คือ เรื่องของเวลาที่ไม่เพียงพอ ซึ่งมีเวลาดูแลสวนที่บ้านในตอนเช้าก่อนไปทำงานและช่วงเลิกงานที่ใกล้ค่ำ และเฉพาะช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ซึ่งจ่าชาติต้องการให้สวนเติบโตและมีเวลาใรการดูแลมากขึ้น จึงเริ่มดูแลสวนไปเรื่อย ๆ จนอยู่ตัวและสามารถสร้างรายได้จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาทำเกษตรแบบเต็มตัว
ทำไมถึงเลือกปลูกไผ่เป็นอาชีพ ?


จากการที่จ่าชาติได้ลองเลี้ยงสัตว์และปลูกพืช ทำให้ทราบว่าการเลี้ยงไก่และเลี้ยงหมูมีโอกาสที่จะขาดทุนได้เพราะทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับราคาตลาด แต่การปลูกไผ่ สามารถที่จะหาประโยชน์ได้ตั้งแต่ ราก หน่อ ใบ กิ่งก้าน ซึ่งสามารถที่จะเปลี่ยนเป็นรายได้ได้ทั้งหมด จึงมองเห็นจุดแข็งของไผ่ ซึ่งไผ่เป็นพืชทีไม่มีโรคและแมลงรบกวนจึงง่ายต่อการจัดการซึ่งประกอบกับเวลาที่มีจำกัด ไผ่จึงเป็นพืชที่ง่ายต่อการดูแลและง่ายต่อการจัดการ โดยไผ่ไม่ต้องใช้สารเคมี ใช้แค่การดูแลในช่วงแรกที่คอยตัดหญ้าและคุมวัชพืช เมื่อเจริญเติบโตแล้วเราจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เต็มที่
กว่าที่จะมีความชำนาญในการปลูกไผ่ใช้เวลานานมั้ย ?


จ่าชาติเริ่มต้นปลูกไผ่ด้วยความรู้จากศูนย์ และลองผิดลองถูกมาหลายปี โดยเริ่มตั้งแต่การปรับทัศนคติ โดยพูดถึงกอไผ่กอใหญ่ ๆ ที่ค่อนข้างรกและดูแลค่อนข้างยาก โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการปลูก เช่น หากจะปลูกเพื่อขายต้นพันธุ์จะขายพันธุ์อะไร จะปลูกเพื่อขายลำไผ่จะขายพันธุ์อะไร เมื่อสามารถแยกชนิดและเลือกชนิดไผ่ได้ตรงตามความต้องการแล้ว จะสามารถเลือกการปลูกและการดูแลได้ถูกวิธี
หากอยากปลูกไผ่ขายกิ่งพันธุ์และหน่อมีสายพันธุ์ไหนที่แนะนำบ้าง ?


ไผ่ที่นิยมใช้ลำมักจะใช้ ไผ่รวก ไผ่เลี้ยง ไผ่ซางหม่น ไผ่กดยักษ์ ยักษ์มันหมู ยักษ์พม่า ซึ่งจะมีความหลากหลายในแต่ละสายพันธุ์ หากเราต้องการไม้ไผ่ลำใหญ่ ๆ ควรจะปลูก ไผ่หกยักษ์ ยักษ์มันหมู ยักษ์พม่า ซึ่งทั้งสามชนิดจะมีขนาดลำที่โตตั้งแต่ 5-6 นิ้ว ขึ้นไป และขนาดที่รองลงมา ได้แก่ ไผ่ซางหม่น ไผ่เลี้ยงพันธุ์หนัก ไผ่รวก จะนิยมใช้ในงานไม้อีกชนิดหนึ่ง แต่จ่าชาติจะเน้นปลูกไผ่ตระกูลยักษ์ เช่น ยักษ์พม่า หกยักษ์ ยักษ์มันหมู ซึ่งในความคิดของจ่าชาติมองว่าสามารถนำไปต่อเป็นสาขาย่อยอื่น ๆ ที่สามารถสร้างรายได้ และระหว่างนั้นยังสามารถขายต้นพันธุ์ได้อีกด้วย


ส่วนไผ่ที่สามารถปลูกเพื่อทานหน่อ จะนิยมปลูกไผ่กิมซุง ไผ่บงหวาน และไผ่บงหวานเบอร์9 ซึ่งหน่อสามารถทานดิบได้เลยโดยที่ไม่มีสายไซยาไนด์ ซึ่งเป็นจุดเด่นจุดขายของไผ่ชนิดนี้ โดยคนที่เป็นโรคเก๊าท์สามารถทานได้ ซึ่งเมื่อมีสายพันธุ์ไผ่ที่ดีแล้ว สิ่งที่ตามมาโดยอัตโนมัติคือเรื่องของการขายต้นพันธุ์ ซึ่งไผ่ทุกชนิดที่จ่าชาติปลูก จะเน้นเรื่องของการทำพันะู์เพื่อจำหน่าย โดยเน้นการทำตลาดทางช่องทางออนไลน์เพื่อเสนอตัวเองให้กว้างและเป็นที่รู้จักได้มากขึ้น โดยสามารถสร้างรายได้ทุกวัน
สำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัดควรเริ่มต้นปลูกไผ่ยังไง


คนที่มีพื้นน้อย หากมีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ควรแบ่งเป็นที่อยู่อาศัย พืชผักสวนครัวและปลูกพืชผสมผสาน และปลูกไผ่ควบคู่ไปด้วย ควรเลือกปลูกไผ่บงหวานเบอร์ 9 เพื่อขายหน่อ โดยไผ่ชนิดนี้สามารถออกหน่อได้ตลอดทั้งปี ซึ่งหากปลูกในพื้นที่ 1 ไร่ สามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้สบาย ซึ่ง 1 ไร่ จะได้ผลผลิตอย่างน้อยวันละ 10-15 กิโลกรัม ซึ่งราคาของหน่อไม้ไผ่ชนิดนี้จะอยู่ราคากิโลกรัมละประมาณ 60 บาท ขึ้นไป โดยแบ่งเป็นเกรด โดยสามารถคัดเกรดถัวเฉลี่ย สามารถสร้างรายได้วันละประมาณ 500 บาท
เทคนิคการปลูกไผ่ให้โตไว


เนื่องจากไผ่เป็นพืชตระกูลหญ้า การปลูกไผ่จึงมีการดูแลค่อนข้างง่าย โดยไผ่จะแพ้อย่างเดียวคือสารเคมี โดยเฉพาะยาฆ่าหญ้า ควรระยะปลูกที่เหมาะสมคือระหว่างเสาห่าง 4 เมตร ระหว่างกอห่าง 2 เมตรไปเรื่อย ๆ โดย 1 ไร่ จะสามารถปลูกได้ประมาณ 200 กอ โดยปลูกแบบยกแปลงให้ขนาดของแปลงกว้าง 6 เมตร และเว้นระยะในการปลูกจากขอบข้างละ 1 เมตร ทำให้บนแปลงสามารถปลูกได้ 2 แถว แต่ละกอจะห่างกัน 2 เมตร ไปเรื่อย ๆ โดยขุดหลุมปลูกได้เลย
เมื่อครบ 1 เดือน จะเริ่มใส่ปุ๋ยเพื่อล่อให้รากเดินขึ้นมากินอาหารบริเวณผิวดิน โดยใช้ปุ๋ยคอกในช่วงเดือนแรกประมาณ 2 กิโลกรัมต่อต้น และใส่ทุก ๆ 2 เดือน และเพิ่มปริมาณการให้ไปเรื่อย ๆ โดยคอยดูแลเรื่องของความชื้นเป็น แสงแดด และอาหารเป็นหลัก และคอยกำจัดวัชพืชในช่วงแรกเพื่อให้ไผ่เจริญเติบโตไว
เมื่อปลูกครบ 1 ปี จะไม่ต้องคอยกำจัดวัชพืช เพราะต้นไผ่จะคลุมทั้งหมดทำให้แสงแดดส่องไม่ถึงพื้นและหญ้าจะขึ้นไม่ได้ และการดูแลด้วยวิธีการสางกอปีละ 1 ครั้ง ในช่วงเดือน ตุลาคม-พฤศจิกายน เพื่อให้หน่อไม้ออกผลผลิตในช่วงเดือนมกราคม เมื่อสางกอเสร็จควรใส่ขี้วัวและแกลบดำอย่างละ 1 กระสอบ เพื่อหมกให้หน่อมีสีสันที่สวนงาม โดยจะได้หน่อที่สีอ่อนกว่าธรรมชาติ ทำให้หน่อสวยและมีรสชาติกรอบหวานกว่าหน่อที่มีสีเขียว ซึ่งแสงแดดจะทำให้หน่อไม่เรียวและมีสีเขียว แต่เมื่อคลุมด้วยแกลบดำจะทำให้หน่อขยายออกด้านข้าง ทำให้หน่อใหญ่ อวบ และกรอบ
หากสนใจเรียนรู้การปลูกไผ่และสนใจต้นพันธุ์ไผ่ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 089-704-2357
Line : 0897042357
Facebook : จ่าชาติ ไร่เปี่ยมสุข
………………………………………
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :
𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร
𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn
𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn
𝗦𝗵𝗼𝗽𝗲𝗲: shopee.co.th/kasetsanjorn
𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹: @kasetsanjorn
𝗕𝗹𝗼𝗰𝗸𝗱𝗶𝘁: blockdit.com/kasetsanjorn/
𝗧𝘄𝗶𝘁𝘁𝗲𝗿: twitter.com/kasetsanjorn/
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: kasetsanjorn.com