ฝูงตั๊กแตนหัวเขียวลงเต็มนาข้าวกลางดึกที่บ้านดงใหญ่ ต.ดงใหญ่ อ.พิมาย มากที่สุดในรอบ 20 ปี ชาวนาได้โอกาสทองจับไปทอดขายทำเงินวันละ 300-1,000 บาท เกษตรอำเภอชี้หนักสุดที่บ้านทับควาย แนะอย่าพ่นยา
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 24 ส.ค. 63 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านดงใหญ่ ต.ดงใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลังพบว่ามีฝูงตั๊กแตนเขียวลงเกาะต้นข้าวของชาวนาในเขตพื้นที่ 4 ตำบลของ อ.พิมาย คือ ต.ดงใหญ่ ต.ชีวาน ต.กระชอน และต.ท่าหลวง เป็นจำนวนมากในรอบ 20 ปี ซึ่งในวิกฤตินี้ก็เป็นโอกาสให้กับชาวนาและชาวบ้านได้จับตั๊กแตนขายเพื่อเป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัวได้วันละ 300-1,000 บาท
จากการสอบถามนายทนงศักดิ์ เกาะสังข์ อายุ 35 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ที่ 13 ต.ดงใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หนึ่งในชาวนา กล่าวว่า ตนไม่เคยเห็นตั๊กแตนมาลงนาข้าวแบบนี้มานานแล้ว เคยเห็นตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วสังเกตเห็นว่ามีฝูงตั๊กแตนเขียวมาจากไหนก็ไม่รู้ลงนาข้าวเต็มไปหมด ซึ่งตั๊กแตนที่มาลงนาข้าวนั้น ก็ไม่ได้มากัดกินใบข้าวให้เสียหายแต่อย่างใด ชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างพากันออกไปจับตั๊กแตนกันอย่างคึกคัก สร้างรายได้เพิ่มให้กับครอบครัวได้เป็นอย่างดี โดยตั๊กแตนสดจะขายในราคากิโลกรัมละ 250-300 บาท บางคนก็จะขายแบบทอดพร้อมรับประทานได้เลย ซึ่งมีรายได้ประมาณวันละ 300-1,000 หรือมากกว่านั้นตามปริมาณของตั๊กแตนที่จับได้
ด้าน นายพงษ์ศักดิ์ เริ่มสูงเนิน เกษตรอำเภอพิมาย กล่าวว่า ทางเกษตรอำเภอได้ลงพื้นที่ติดตามการระบาดของตั๊กแตนสีเขียวในพื้นที่ตำบลดังกล่าวแล้ว ซึ่งพื้นที่หมู่บ้านที่ได้รับรายงานการระบาดมากที่สุดคือบ้านทับควาย หมู่ 5 ต.ชีวาน บ้านโนนผักชี หมู่ 10 ต.กระชอน ซึ่งในทุกพื้นที่ตั๊กแตนจะลงในเวลากลางคืน เกษตรกรจะใช้ไฟฉายส่องจับเพื่อนำไปบริโภคในครัวเรือนและจำหน่าย ขณะนี้ปริมาณตั๊กแตนลดลงเบาบางมากแล้ว โดยได้แนะนำให้ผู้ใหญ่บ้านประชาสัมพันธ์แก่ลุกบ้าน ขอร้องไม่ให้เกษตรกรฉีดพ่นสารเคมีในการกำจัดตั๊กแตน เพราะจะเกิดอันตรายต่อผู้บริโภค
เกษตรอำเภอพิมาย กล่าวด้วยว่า สำหรับการตรวจสอบแปลงนาที่พบตั๊กแตนในนาข้าวนั้น ไม่พบร่องรอยการทำลายใบข้าว ต้นข้าวยังคงเจริญเติบโตปกติ เนื่องจากข้าวมีอายุมากจึงมีผลกระทบน้อย และได้มอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้านติดตามและรายงานให้สำนักงานเกษตรอำเภอพิมายอย่างต่อเนื่องต่อไป.