ร่วมด้วยช่วยกัน ชลประทานจับมือชาวบ้านหมี่ปรับแผนการใช้น้ำส่งน้ำช่วยประปา จ.ลพบุรี
กรมชลประทานขอความร่วมมือจากเกษตรกรปรับลดการสูบน้ำในคลองส่งน้ำชัยนาท-ป่าสัก เพื่อลำเลียงน้ำให้การประปาส่วนภูมิภาคสาขาลพบุรี ลดผลกระทบขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การกำกับดูแลของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ และ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ( 2 มิ.ย. 64) ได้เกิดเหตุน้ำประปาในเขตตัวเมืองลพบุรีหยุดไหล กรมชลประทาน โดย สำนักงานชลประทานที่ 10 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับเกษตรกรในพื้นที่ทำการปรับลดการสูบน้ำลง เพื่อให้การลำเลียงน้ำจากอำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ และอำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ส่งไปให้ถึงสถานีสูบน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาคอย่างเร่งด่วน โดยน้ำได้เดินทางมาถึงสถานีสูบน้ำของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาลพบุรีในช่วงเช้าวันนี้ (3 มิ.ย. 64) ทำให้การประปาฯ สามารถผลิตน้ำประปาพร้อมแจกจ่ายน้ำให้กับประชาชนในเขตตัวเมืองลพบุรีได้ในวันเดียวกัน ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณชาวอำเภอบ้านหมี่ และเกษตรกรในพื้นที่ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ด้าน นายสุรัช ธนูศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 10 กล่าวว่า เนื่องจากในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เกิดสภาวะฝนทิ้งช่วงโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง 22 จังหวัด ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีการเพาะปลูกข้าวนาปีไปแล้วกว่า 3.5 ล้านไร่ หรือประมาณ 45% ของพื้นที่ ปัจจุบันพบว่ามีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์เพียงวันละ 10 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้แม่น้ำเจ้าพระยา ที่ อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท มีระดับต่ำไม่สามารถไหลเข้าคลองส่งน้ำชัยนาท – ป่าสัก โดยแรงโน้มถ่วงได้ สำนักงานชลประทานที่ 10 ได้ดำเนินการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขสถานการณ์และให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ขนาด 5 ลบ.ม. ต่อวินาที 4 เครื่อง และขนาด 3 ลบ.ม. อีก 4 เครื่อง สูบน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่คลองส่งน้ำชัยนาท – ป่าสัก ที่ประตูระบายน้ำมโนรมย์วันละประมาณ 1.5 ล้าน ลบ.ม. เริ่มสูบตั้งแต่กลางเดือน มีนาคม ที่ผ่านมา พร้อมวางแผนจัดสรรน้ำเพื่อสนับสนุนการผลิตน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค 7 สาขา และการประปาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีก 24 แห่ง รวม 31 แห่ง ซึ่งมีความต้องการใช้น้ำวันละ 0.5 ล้าน ลบ.ม. ให้เพียงพอ รวมไปถึงส่งไปช่วยเหลือไม้ผล ไม้ยืนต้นด้วย
นอกจากนี้ ยังได้ทำการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจ และขอความร่วมมือเกษตรกรให้ใช้น้ำอย่างประหยัด ทั้งยังบริหารจัดการน้ำแบบรอบเวร ด้วยการกำหนดรอบเวร การใช้น้ำในคลองส่งน้ำชัยนาท – ป่าสัก เพื่อแบ่งปันน้ำให้ทั่วถึง โดยกำหนดเป็น 3 ช่วง ประกอบด้วย ช่วงต้นคลอง ระหว่างประตูน้ำมโนรมย์ – ประตูน้ำช่องแค (อ.มโนรมย์ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์) ช่วงกลาง ระหว่าง ประตูน้ำช่องแค – ประตูน้ำโคกกะเทียม (อ.บ้านหมี่ อ.เมือง จ.ลพบุรี) และช่วงปลาย คลองชัยนาท – ป่าสัก ระหว่าง ประตูน้ำเริงราง – แม่น้ำป่าสัก (อ.หนองโดน อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี) และใช้เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ ขนาด 8”, 10” และ 12” รวม 40 เครื่อง ติดตั้งที่ปากคลองแยกซอย เพื่อสูบน้ำจากคลองส่งน้ำชัยนาท – ป่าสัก ส่งให้กับพื้นที่การเกษตรที่ทำการเพาะปลูกข้าวนาปีไปแล้ว กว่า 300,000 ไร่ พร้อมกันนี้ได้ให้คำแนะนำแก่เกษตรกร การใช้น้ำจากคลองส่งน้ำชัยนาท – ป่าสัก ตามรอบเวรเพื่อแบ่งปันน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยประคับประคองข้าวนาปีที่ปลูกไปแล้วไม่ให้เกิดความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ และให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการผลิตน้ำประปา อีกทั้งยังได้ขอความร่วมมือเกษตรกรที่ยังไม่ได้ทำการเพาะปลูกให้เลื่อนการเพาะปลูกออกไป รอให้มีฝนตกสม่ำเสมอและมีปริมาณน้ำอย่างเพียงพอในพื้นที่
#PRNews #กรมชลประทาน #เกษตรกร #เกษตรสัญจร #ปรับลดการสูบน้ำ #น้ำประปา
—————————
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
Facebook: facebook.com/kasetsanjorn
YouTube: youtube.com/c/Kasetsanjorn
Twitter: twitter.com/kasetsanjorn/
Website: kasetsanjorn.com