1.โรคเนื้อเน่า ยาฆ่าหญ้า พาราควอต มีผลต่อร่างกายของตัวเกษตรเองเบื้องต้นอาจ มีอาการวิงเวียน,คลื่นไส้,หายใจติดขัด,ผิวหนังอักเสบ,และจากข้อมูลทางการแพทย์พบว่า เกษตรกรไทยป่วยเป็นโรคเนื้อเน่า จำนวนมาก และโรคนี้มีอันตรายถึงชีวิต


2.สารพิษตกค้างคงตกค้างอยู่ในน้ำ ในดิน จากการตรวจสอบสารพิษในบริเวณที่ใช้พาราควอตพบว่า มีปาริมาณสารพิษตกค้างอยู่ในแหล่งน้ำ,ดิน และสารพิษเหล่านี้ สามารถแพร่กระจายไปยังสัตว์และพืชอื่นๆลามไปถึงท้องที่อื่นๆได้


3.สารพิษตกค้างอยู่ในผักและผลไม้ จากการตรวจพบ ผักและผลไม้ในซุปเปอร์มาร์เก็ต และในตลาด พบสารพิษตกค้าจาก ยาฆ่าหญ้าพาราคงอตตกค้างอยู่ในพืชพักผลไม้ใรปริมาณที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และที่สำคัญสารพิษตกค้างนี้ยัง ติดทนนาน ล้างไม่ออก ,ต้มไม่หาย,จากการทดลองต้มในจุดเดือด 300 องศา ยังไม่สามารถกำจัดสารพิษตกค้างออกไปได้


4.โรคพาร์กินสัน สารพิษตกค้างในผักและผลไม้ มีผลกระทบต่อสตรีมีครรภ์และเด็กในท้อง มีโอกาสป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน และปัจจุบันตรวจพบทารกที่มีสารตกค้างอยู่ในตัวแล้ว


5.ทั่วโลกยกเลิกพาราควอตไปแล้ว 53 ประเทศ ทั้งๆทีรู้แล้วว่ามันไม่ดี แล้วทำไมเรายังจะต้องใช้


รู้งี้เลิกไปนานแล้ว ยาฆ่าหญ้าที่ไม่ได้ฆ่าแค่หญ้า แต่มันฆ่าพวกเราทั้งหมด ทั้งตัวเกษตกรเอง,ผู้บริโภคอาหาร,สัตว์และสิ่งแวดล้อม พี่น้องเกษตกรไทย รู้ทันอันตรายของยาฆ่าหญ้า พาราควอต ใครไม่เลิก เราเลิก !!!
ไม่ต้องรอให้ใครยกเลิก เกษตรกรไทยรู้ทันพิษภัยของมันแล้วถึงเลาหรือยังที่เราจะเลิกใช้มัน ทางเลือก ทางรอด ทางเดียว ที่คนไทยเราจะปลอดภัยยั่งยืนร่วมกันคือ หันมาทำเกษตรแบบปลอดสารเคมี ติดตามความรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ ทางเลือก ทางรอด เกษตรกรไทย ยปลอดภัย ยั่งยืนได้ที่ เว็บไซต์เกษตรสัญจร