น้องหนึ่ง พ่อค้าซื้อขายและเลี้ยงกบ จ.อยุธยา เผยเคล็ดลับการเลี้ยงกบให้ประสบความสำเร็จด้วยประสบการณ์การเป็นพ่อค้าซื้อขายกบมานานถึง 20 กว่าปี และเลี้ยงกบขายเองโดยเลี้ยงทั้งบ่อปูนและกระชังบก
จุดเริ่มต้นในการเลี้ยงกบ


จากการที่เป็นพ่อค้าขายกบอยู่แล้วจึงมองว่าการที่เราจะเลี้ยงกบเพื่อจำหน่ายเองด้วยน่าจะดีกว่า จึงลองเริ่มต้นเลี้ยงเพื่อเสริมให้กับลูกค้า โดยเลี้ยงไว้ประมาณ 10,000 ตัว ซึ่งเลี้ยงกบไว้ทั้ง 2 รูปแบบ เป็นบ่อปูน และกระชังบก โดยแบ่งเป็นกระชังบก 7 บ่อ และบ่อปูน 2 บ่อ
การเลี้ยงกบยากมั้ย ?


การเลี้ยงกบหากเลี้ยงเป็นแล้วจะเลี้ยงไม่ยาก ซึ่งสิ่งสำคัญคือการดูแลน้ำให้สะอาดและอาหารมีปริมาณเพียงพอและมียาบำรุงนิดหน่อย ซึ่งการดูแลคุณภาพน้ำในการเลี้ยงกบ ควรเปลี่ยนน้ำทั้งเช้าและเย็น โดยหลังจากเปลี่ยนน้ำจะใช้น้ำฉีดบริเวณพื้นเพื่อล้างทำความสะอาด เพราะหากน้ำสกปรกกบจะกินอาหารไม่ค่อยดี ทำให้โตช้า ในการเริ่มต้นเลี้ยงกบควรมีการเตรียมบ่อ โดยใช้แพยางรองด้านในและเปิดน้ำใส่ลงไป และใช้ด่างทับทิมประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ แช่ทิ้งไว้ประมาณ 2 วันก็สามารเริ่มต้นเลี้ยงกบได้เลย
กบใช้เวลาเลี้ยงนานมั้ยกว่าจะขายได้


การเลี้ยงกบถ้านับระยะเวลาการเลี้ยงตั้งแต่เป็นลูกอ๊อดจะใช้เวลาประมาณ 4 เดือน ถ้าเป็นลูกอ๊อดที่หางหดแล้วจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน โดยเลี้ยงให้มีน้ำหนักตัวละประมาณ 7 ขีดในกบตัวเมีย และตัวละประมาณ 5 ขีดในกบตัวผู้ ซึ่งตัวเมียจะจำหน่ายได้น้ำหนักดีกว่า ประมาณ 3 ตัวโล และตัวผู้จะตัวเล็กกว่า จำหน่าย 4-5 ตัวโล
ซึ่งการเลี้ยงกบต้องขยันเปลี่ยนน้ำ โดยใน 20 วันแรก-1 เดือน จะคอยให้อาหารวันละประมาณ 3 มื้อ ในช่วงตอนเช้าไม่เกินเวลา 7 โมง และเปลี่ยนน้ำก่อนให้อาหาร โดยจะให้อาหารทุก ๆ 7 ชั่วโมง หากให้อาหารเวลา 7 โมงเช้า จะให้อีกครั้งในช่วงเวลาบ่าย 2 โมง และ 3 ทุ่ม หลังจากพ้นระยะเวลา 20 วันแรก จะลดการให้อาหารเหลือเพียงแค่ 2 มื้อ ในช่วงเช้าและเย็น
โรคที่พบบ่อยในการเลี้ยงกบและวิธีรับมือ


โรคในกบมักเกิดจากสภาพอากาศชื้น ฝนตก และความสกปรก โดยโรคที่พบได้บ่อยคือ ตาขาว ตาขุ่น กบที่ป่วยจะมีตาสีขาวขุ่น และบางตัวอาจเกิดอาการเส้นประสาทเสีย ส่งผลให้เดินหมุนในบ่อ วิธีแก้ไขคือ ผสมยารักษาในอาหารให้กบกินต่อเนื่อง 4-5 วัน พร้อมเปลี่ยนน้ำเป็นประจำ อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น
หลังฝนตก การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิน้ำอาจทำให้กบเกิดอาการน็อกน้ำ ซึ่งหากไม่รีบแก้ไขอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่น ๆ ได้ การดูแลคุณภาพน้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเลี้ยงกบให้แข็งแรง! ซึ่งช่วงแรกที่เริ่มต้นเลี้ยงกบควรมีการศึกษาหาความรู้ให้ดี ควรมีการวางแผ่นยางในกระชังเพื่อป้องกันการกัดกันโดยป้องกันให้ตัวเล็กหนีการกัดจากตัวที่ใหญ่กว่า และสำหรับให้กบมาเกาะใช้สำหรับอาบแดด โดยจะใส่ไว้ในช่วงเริ่มต้นประมาณ 3 สัปดาห์ ก็จะสามารถเอาแผ่นยางออกได้
ปัจจุบันราคากบเป็นยังไงบ้าง ?


ราคากบมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล โดยช่วงฤดูหนาวราคาจะสูงกว่าฤดูร้อน การเลี้ยงกบสามารถทำกำไรได้ราว 20-30% ในช่วงปกติ แต่หากเลี้ยงในช่วงฤดูหนาว ซึ่งถือเป็น กบนอกฤดู อาจทำกำไรได้สูงถึง 70% อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงกบในหน้าหนาวค่อนข้างยาก จำเป็นต้องใช้แผ่นคลุมและหลอดไฟช่วยปรับอุณหภูมิ เพราะกบกินอาหารน้อยลง เสี่ยงต่ออาการ น็อกน้ำ โดยเฉพาะในกระชังบก
สำหรับกบที่เลี้ยงในบ่อดินหรือกระชังน้ำ จะสามารถปรับตัวกับอากาศหนาวได้ดีกว่า โดยไม่จำเป็นต้องควบคุมอุณหภูมิมากนัก การเลือกวิธีเลี้ยงที่เหมาะสมจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มผลผลิตและลดความเสี่ยง!
ปัจจุบันกบตามท้องตลาดจะขายแยกตามขนาด โดยแบ่งเป็นขนาดล็กกลางใหญ่ โดยกบขนาดใหญ่จะมีน้ำหนัก 2-3 ตัวโล กบขนาดกลางจะเป็น 4 ตัวโล และกบขนาดเล็กจะเป็น 5 ตัวโล โดยราคาหน้าบ่ออยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 60 บาท และในตลาดราคาประมาณกิโลกรัมละ 70-75 บาท โดยกบที่เลี้ยงจนครบ 3 เดือน กบตัวเมียจะมีน้ำหนักประมาณ 2-4 ตัวโล และตัวผู้ 4-5 ตัวโล
คำแนะนำสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นเลี้ยงกบ


หากเริ่มต้นเลี้ยงสามารถเริ่มจากการเลี้ยงในกระชังบกจะทำให้ประหยัดมากกว่า โดยทำบ่อลงทุนประมาณ 700-800 บาท แต่หากทำเป็นบ่อปูนหรือบ่อซีเมนต์อาจจะต้องลงทุนหลักหมื่นขึ้นไป ซึ่งการเลี้ยงกบควรมี 2 บ่อเพื่อทำการคัดไซส์ โดยบ่อขนาดประมาณ 2×4 เมตร จะสามารถเริ่มต้นเลี้ยงกบได้ 2,000 ตัว โดยปล่อยเพียง 1 บ่อ และเมื่อกบเริ่มโตจะคัดไซส์เอากบตัวใหญ่ออก เพื่อให้กบตัวเล็กอยู่ได้และไม่โดนกัด ถ้าเลี้ยงแบบไม่แยกไซส์โดยใช้บ่อเดียวเลี้ยงตั้งแต่เล็กจนโตจะแนะนำให้เลี้ยงประมาณ 800-1,000 ตัว แต่จะมีโอกาสที่กบตัวเล็กโดนกัดได้
วิธีการให้อาหารกบจะให้จะสังเกตุจากการให้อาหาร หากกบทานหมดถือว่ามีปริมาณที่เพียงพอโดยไม่มีอาหารที่ลอยค้าง และเพิ่มปริมาณไปเรื่อย ๆ ทุกอาทิตย์เพื่อให้เพียงพอกับการเจริญเติบโตของกบ และการเลี้ยงกบในกระชังควรมีการคลุมสแลนเพื่อป้องกันความร้อนจากแสงแดดและใช้ตาข่ายคลุมด้านข้างเพื่อป้องกันนก
คำแนะนำสำหรับคนที่อยากเลี้ยงกบแต่ไม่มีที่ขาย


พ่อค้ารับซื้อกบมีอยู่ในแทบทุกพื้นที่ แต่หากต้องการตลาดที่แน่นอน แนะนำให้สมัครเป็นลูกฟาร์ม เพราะนอกจากจะหาลูกกบได้ง่ายแล้ว ฟาร์มมักมีพ่อค้ารับซื้อคืน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องหาตลาด หากเลี้ยงกบได้ดี ไม่มีโรค และเติบโตสมบูรณ์ สามารถจำหน่ายได้ภายใน 3 เดือน โดยไม่ต้องวิ่งหาพ่อค้าเอง ซึ่งสิ่งสำคัญในการเลี้ยงกบคือ การให้อาหารในปริมาณที่เหมาะสม หากให้น้อยเกินไป กบจะไม่โตและใช้เวลานานกว่าจะขายได้ การวางแผนอาหารจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มผลผลิตและกำไร!
หากสนใจเทคนิคการเลี้ยงกบหรือต้องการพันธุ์กบสามารถติดต่อได้ที่
โทร : 098-951-4708
Tiktok : sakonpuengkam_farmkod
Facebook : Sakon Puengkam
………………………………………
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :
𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร
𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn
𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn
𝗦𝗵𝗼𝗽𝗲𝗲: shopee.co.th/kasetsanjorn
𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹: @kasetsanjorn
𝗕𝗹𝗼𝗰𝗸𝗱𝗶𝘁: blockdit.com/kasetsanjorn/
𝗧𝘄𝗶𝘁𝘁𝗲𝗿: twitter.com/kasetsanjorn/
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: kasetsanjorn.com