จุดเริ่มต้นในการทำเกษตร

พี่หนุ่ม เจ้าของ เอเจนาโน ไฮโดรฟาร์ม จังหวัดเชียงราย เกษตรกรผู้ส่งผักไฮโดรโปนิกส์คุณภาพและยังเป็นหนึ่งในคนที่บุกเบิกการปลูก ฮอปส์ – พืชแต่งกลิ่นและรสชาติสำหรับเบียร์ ซึ่งปกติปลูกได้ดีในประเทศเขตหนาว ซึ่งก่อนหน้านี้พี่หนุ่มเคยเปิดร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือ แต่เมื่อสุขภาพเริ่มมีปัญหา จึงหันมาทำเกษตร เริ่มจากปลูกผักไฮโดรโปนิกส์จนกลายเป็นรายได้หลัก ปัจจุบันมีมากกว่า 10 โรงเรือน และต่อยอดสู่การทดลองปลูกฮอปส์ในระบบที่ปรับให้เหมาะกับสภาพอากาศไทย ฮอปส์ ถือเป็นพืชที่ติดอันดับ หนึ่งในสิบของพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูง การปลูกสำเร็จในไทยจึงถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสทองของวงการเกษตร
ก่อนตัดสินใจมาทำเกษตร มีความยากลำบากไหม?
จริง ๆ แล้วการตัดสินใจเริ่มทำเกษตรไม่ยากเลย เพราะรู้สึกเหมือนได้เริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ ทำให้มีพลัง แถมไม่ต้องเสี่ยงอันตรายจากควันตะกั่วเหมือนตอนทำงานเดิม ตั้งแต่เริ่มต้น ทุกเช้าจะได้ตื่นมาดูผักในแปลง เดินตรวจโรงเรือน ได้ออกกำลังกายและสนุกกับสิ่งที่ทำ แต่พอผ่านไป 2-3 ปี เริ่มเจอปัญหา ทั้งโรคและแมลง จึงต้องหาวิธีแก้ไขด้วยเทคโนโลยี เช่น ติดตั้ง ระบบพ่นหมอกอัตโนมัติ เพื่อควบคุมสภาพแวดล้อมในโรงเรือน จนสามารถจับทางได้ และทำให้การปลูกผักประสบความสำเร็จมากขึ้น
จุดเริ่มต้นการปลูกฮอปส์ของพี่หนุ่ม
ก่อนจะตัดสินใจปลูกฮอปส์ พี่หนุ่มใช้เวลาศึกษาข้อมูลล่วงหน้า 2-3 ปี โดยสังเกตว่ามีบริษัทเบียร์เริ่มนำฮอปส์เข้ามาปลูกในไทย ทำให้เกิดความสนใจและอยากลองบ้าง จึงสั่งสายพันธุ์ฮอปส์นำเข้าจากต่างประเทศมาทดลองปลูก พี่หนุ่มมองเห็นว่าฮอปส์ไม่เพียงแค่มีสรรพคุณหลากหลาย แต่ยังเป็นพืชมูลค่าสูง ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ช่วงปีแรกยังไม่ได้ผลผลิต แต่เมื่อเข้าสู่ปีที่ 2 ฮอปส์เริ่มออกดอก จึงทดลองขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง และกลางปีที่ 2 ต้นเริ่มออกดอกเต็มที่ จากนั้นพี่หนุ่มจึงไปศึกษากระบวนการทำเบียร์ เพราะฮอปส์เป็นวัตถุดิบสำคัญ ใช้ในปริมาณมาก คิดเป็นต้นทุนกว่าครึ่ง และดอกฮอปส์เองก็มีราคาสูง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมคราฟต์เบียร์ ปัจจุบัน พี่หนุ่มทำสวนฮอปส์ควบคู่กับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ช่วยเพิ่มรายได้และสร้างความแปลกใหม่ให้กับฟาร์ม
วิธีการปลูกฮอปส์
ฮอปส์เป็นพืชที่ต้องการดินโปร่ง ระบายน้ำได้ดี เพราะแม้จะชอบน้ำแต่ไม่ทนต่อน้ำขัง ซึ่งอาจทำให้เกิดโรครากเน่าและโคนเน่าได้ง่าย การปลูกไม่ซับซ้อนและไม่ต้องดูแลมากนักแต่โรคที่มักพบคือเพลี้ยไฟซึ่งต้องคอยสังเกตและจัดการอย่างเหมาะสม หลังจากปลูกจนต้นตั้งตัวได้ จะเริ่มตัดแต่งกิ่งเพื่อให้แตกยอดใหม่ประมาณ 4 ยอด จากนั้นปล่อยให้เถาเลื้อยขึ้นสูงราว 4 เมตร เมื่อต้นโตเต็มที่จะเริ่มออกดอก โดยดอกจะออกจากด้านบนลงล่าง ในต่างประเทศนิยมเก็บด้วยการตัดทั้งต้นแล้วดึงลงมา เพื่อส่งต่อไปอัดเม็ดหรือจำหน่ายเป็นดอกสด แต่สำหรับพี่หนุ่มจะปลูกไม่สูงมาก และเก็บดอกด้วยมือแทน ทำให้สามารถเก็บดอกได้ทุก ๆ 3-4 เดือน และตัดแต่งกิ่งเพื่อให้แตกใหม่ ฮอปส์เป็นพืชเถาที่มีอายุยืนหลายปี และมีหลายสายพันธุ์ ซึ่งให้ความขมและกลิ่นต่างกัน ในต่างประเทศจะมีการตรวจวัดคุณภาพของฮอปส์ก่อนนำไปใช้ แต่ในไทยยังไม่มีระบบนี้ สำหรับการทำเบียร์ ปริมาณและสายพันธุ์ของฮอปส์ที่ใช้จะแตกต่างกันตามสูตร โดยสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Cascade, Columbus, Centennial และ Comet ซึ่งปัจจุบันฮอปส์จะนิยมจำหน่ายแบบอัดเม็ด และในไทยต้องใช้การนำเข้ามาจากต่างประเทศ
การวางแผนในอนาคต
พี่หนุ่มมีแผนจะขยายพื้นที่ปลูกฮอปส์ให้มากขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมในอนาคต หากมีการสนับสนุนเกษตรกรเพิ่ม ก็จะสามารถต่อยอดสู่การแปรรูปและผลิต คราฟต์เบียร์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิต นอกจากนี้ ฮอปส์ ยังสามารถนำมาทำเป็น ชา ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและสมองปลอดโปร่ง ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้จากการแปรรูป
พี่หนุ่มเชื่อว่า การทำเกษตรถ้าตัดสินใจถูกทาง และบริหารจัดการอย่างมีระบบ ก็สามารถสร้างรายได้ สร้างอาชีพ และทำให้เกิดความยั่งยืนได้จริง เพราะแท้จริงแล้ว การทำเกษตรก็เหมือนกับการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง หากจับทางถูกและลงมือทำอย่างมีกลยุทธ์ ความสำเร็จก็ไม่ไกลเกินเอื้อม
หากสนใจเทคนิคการปลูกฮอปส์และผักไฮโดรโปนิกส์จากสวน เอเจนาโน ไฮโดรฟาร์ม สามารถติดต่อได้ที่
Facebook: เอเจนาโน ไฮโดรฟาร์ม
………………………………………
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :
𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร
𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn
𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn
𝗦𝗵𝗼𝗽𝗲𝗲: shopee.co.th/kasetsanjorn
𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹: @kasetsanjorn
𝗕𝗹𝗼𝗰𝗸𝗱𝗶𝘁: blockdit.com/kasetsanjorn/
𝗧𝘄𝗶𝘁𝘁𝗲𝗿: twitter.com/kasetsanjorn/
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: kasetsanjorn.com