ภัยแล้งเป็นปัญหาที่เกษตรกรต้องเผชิญทุกปี หากไม่มีการบริหารจัดการน้ำที่ดี อาจทำให้พืชขาดน้ำ โตช้า หรือให้ผลผลิตต่ำลง ส่งผลต่อรายได้และต้นทุนที่สูงขึ้น การจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้สวนสามารถอยู่รอดได้ในช่วงหน้าแล้ง โดยมีเทคนิคดังนี้
.
- การสร้างแหล่งกักเก็บน้ำและระบบน้ำสำรอง
การมีแหล่งน้ำของตัวเองช่วยให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการน้ำได้ดีขึ้น โดยสามารถขุดบ่อเก็บน้ำให้มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่และปริมาณน้ำฝนที่ตกในแต่ละปี การใช้พลาสติกปูบ่อหรือซีเมนต์เคลือบบ่อสามารถช่วยป้องกันการซึมของน้ำและช่วยให้น้ำคงอยู่ได้นานขึ้น การติดตั้ง ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ยังเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยลดต้นทุนระยะยาว เพราะไม่ต้องพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าหรือเชื้อเพลิง
.
- ใช้ระบบน้ำหยดและเทคโนโลยีชลประทาน
ระบบน้ำหยดเป็นหนึ่งในเทคนิคที่ช่วยลดการสูญเสียน้ำได้ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีฝนตกน้อย การวางท่อส่งน้ำใต้ดินสามารถลดการระเหยของน้ำจากแสงแดดและช่วยให้รากพืชได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ การใช้ มินิสปริงเกอร์ หรือ หัวฉีดน้ำแบบประหยัด ยังช่วยให้สามารถกระจายน้ำได้ทั่วถึงและควบคุมปริมาณน้ำที่พืชต้องการได้อย่างเหมาะสม การรดน้ำควรทำในช่วงเช้าหรือเย็น เพื่อลดการระเหยของน้ำจากความร้อนในช่วงกลางวัน
.
- คลุมดินเพื่อรักษาความชื้นและลดการระเหย
การใช้วัสดุคลุมดินเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยกักเก็บความชื้นในดินและป้องกันการระเหยของน้ำได้ดี เช่น การใช้ ฟางข้าว ใบไม้แห้ง หรือเศษหญ้าแห้ง คลุมรอบโคนต้นไม้ นอกจากช่วยลดอุณหภูมิของดินแล้ว ยังช่วยให้ดินอุ้มน้ำได้นานขึ้น และยังสามารถป้องกันวัชพืชไม่ให้แย่งน้ำและธาตุอาหารจากพืชหลัก การปลูกพืชคลุมดิน เช่น ถั่วพร้า ปอเทือง หรือถั่วเขียว ยังช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดินและลดการชะล้างของหน้าดินในช่วงฝนตก
.
- เลือกปลูกพืชทนแล้งและจัดการพื้นที่เพาะปลูก
การเลือกพืชที่ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและปริมาณน้ำที่มีจำกัดเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกได้อย่างยั่งยืน พืชที่ทนแล้ง เช่น มะม่วง มะนาว แก้วมังกร ข้าวโพดฝักอ่อน ถั่วเขียว และมันสำปะหลัง สามารถเติบโตได้แม้ในช่วงที่ฝนตกน้อย นอกจากนี้ การจัดระบบปลูกพืชแบบ ปลูกพืชหมุนเวียน และ ปลูกพืชร่วม ยังช่วยให้ดินคงความชื้นและสามารถใช้ทรัพยากรน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
.
- เก็บน้ำฝนไว้ใช้และบริหารน้ำอย่างมีระบบ
การเก็บน้ำฝนเป็นวิธีที่ช่วยให้มีน้ำสำรองใช้ในช่วงฤดูแล้ง การติดตั้งถังเก็บน้ำฝนจากหลังคา หรือสร้างระบบร่องน้ำเพื่อให้ดินซึมซับน้ำได้มากขึ้น จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำที่สามารถนำมาใช้ได้ นอกจากนี้การทำระบบธนาคารน้ำใต้ดิน ซึ่งเป็นแนวคิดที่ช่วยให้ดินสามารถซึมซับน้ำและกักเก็บไว้ใช้ในภายหลัง ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
.
การรับมือภัยแล้งไม่ใช่เรื่องยาก หากมีการวางแผนที่ดีและนำเทคนิคต่างๆ ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับสวนของเรา การขุดบ่อเก็บน้ำ การใช้ระบบน้ำหยด การคลุมดินเพื่อรักษาความชื้น การเลือกปลูกพืชที่ทนแล้ง และการเก็บน้ำฝนไว้ใช้ ล้วนเป็นแนวทางที่ช่วยให้สวนสามารถอยู่รอดในช่วงหน้าแล้งได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ
………………………………………
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :
𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร
𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn
𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn
𝗦𝗵𝗼𝗽𝗲𝗲: shopee.co.th/kasetsanjorn
𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹: @kasetsanjorn
𝗕𝗹𝗼𝗰𝗸𝗱𝗶𝘁: blockdit.com/kasetsanjorn/
𝗧𝘄𝗶𝘁𝘁𝗲𝗿: twitter.com/kasetsanjorn/
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: kasetsanjorn.com