การเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติกจริง ๆ แล้วไม่ยากอย่างที่คิด แค่ต้องรู้เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ และใส่ใจดูแลให้ถูกวิธี ปลาก็จะโตเร็ว แข็งแรง และสร้างรายได้ให้แบบสบาย ๆ ซึ่งมีเทคนิคดังนี้
.
1. การเลือกบ่อพลาสติก
การเลือกบ่อพลาสติกมีผลต่อการเจริญเติบโตของปลาดุกอย่างมาก ควรเลือกบ่อพลาสติกที่มีคุณภาพ ทนทาน และไม่ทำให้สารเคมีซึมออกมาเป็นอันตรายต่อปลา โดยขนาดบ่อควรมีขนาดตั้งแต่ 2×3 เมตร ขึ้นไปถือว่าเหมาะสม สามารถเลี้ยงปลาดุกได้ประมาณ 200-300 ตัว ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดและการจัดการ และควรเลือกบ่อที่มีความลึก 1.2 – 1.5 เมตร เพื่อให้ปลาดุกมีพื้นที่พอเพียงในการว่ายน้ำและสร้างอยู่อาศัย
.
2. การควบคุมคุณภาพน้ำ
น้ำเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเลี้ยงปลาดุก ดังนั้นการรักษาคุณภาพน้ำให้ดีจะช่วยให้ปลาโตเร็วและแข็งแรง ค่าน้ำที่เหมาะสมสำหรับปลาดุกคือ 6.5-7.5 หากค่า pH ต่ำหรือสูงเกินไปจะทำให้ปลาดุกเครียดและไม่โตเร็ว และการมีออกซิเจนในน้ำเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะในบ่อพลาสติกที่อาจมีการหมุนเวียนน้ำไม่ดี ควรติดตั้งเครื่องเติมอากาศเพื่อให้ออกซิเจนมีปริมาณเพียงพอ และควรเปลี่ยนหรือกรองน้ำทุกๆ 3-5 วัน ขึ้นอยู่กับจำนวนปลาและปริมาณอาหารที่ให้ เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของของเสียอย่างมูลปลาและเศษอาหารที่เน่าเสีย
.
3. การให้อาหารปลาดุก
อาหารเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปลาดุกโตเร็วและสุขภาพดี ถ้าใช้อาหารเม็ดสำเร็จรูปควรเลือกสูตรที่มีโปรตีนสูง อย่างน้อย 25–35% เพราะโปรตีนเป็นตัวช่วยหลักในการเจริญเติบโตของปลา ช่วงที่ลูกปลายังเล็กอาจใช้สูตรโปรตีนต่ำก่อนได้ แต่พอปลาเริ่มโตขึ้น ก็ควรปรับมาใช้อาหารที่มีโปรตีนสูงขึ้นตามไปด้วย โดยให้อาหารวันละ 2–3 ครั้ง ปริมาณที่ให้ควรเป็นปริมาณที่ปลากินหมดภายใน 15–30 นาที เพื่อป้องกันอาหารเหลือที่อาจทำให้น้ำเน่า และยังช่วยประหยัดค่าอาหารอีกด้วย
.
4. การควบคุมอุณหภูมิ
อุณหภูมิของน้ำในบ่อพลาสติกมีผลต่อการเจริญเติบโตของปลาดุกโดยตรง อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดอยู่ที่ประมาณ 25–30°C ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 22°C หรือสูงเกิน 32°C อาจทำให้ปลาดุกโตช้าลง เครียด หรือป่วยง่ายขึ้น ถ้าเลี้ยงในพื้นที่ที่อากาศแปรปรวนควรหาวิธีช่วยปรับอุณหภูมิ เช่น การใช้ผ้าใบคลุมบ่อช่วงแดดแรง หรือหาแนวกันลมในช่วงหน้าหนาว เพื่อให้ปลาดุกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่พอดี โตเร็ว แข็งแรง และไม่เสี่ยงต่อโรค
5. การจัดการโรคและการรักษาความสะอาดในบ่อ
การดูแลสุขภาพปลาดุกในบ่อพลาสติกต้องใส่ใจเรื่องโรคและความสะอาดเป็นพิเศษ ควรหมั่นสังเกตปลาทุกวันว่ามีแผล ว่ายน้ำผิดปกติ หรือเกล็ดหลุดลอกหรือไม่ หากพบปลาป่วยควรแยกออกทันที และอาจใช้สารป้องกันเชื้อแบคทีเรียหรือปรสิตในน้ำเป็นระยะ เพื่อป้องกันการระบาด นอกจากนี้ควรทำความสะอาดบ่ออย่างน้อยปีละ 2–3 ครั้ง และตรวจสอบระบบกรองน้ำให้ใช้งานได้ดีอยู่เสมอ เพื่อให้ปลาสุขภาพดี โตไว และไม่เสี่ยงต่อโรค
.
6. การจัดการพื้นที่และสิ่งแวดล้อม
ควรตั้งบ่อในที่ที่มีแสงแดดเพียงพอ แต่ไม่ควรตั้งในที่ที่แสงแดดจัดเกินไป เนื่องจากอาจทำให้อุณหภูมิของน้ำสูงเกินไป และควรติดตั้งระบบกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพ เช่น ระบบกรองแบบผ้าหรือทราย เพื่อช่วยให้น้ำสะอาดและลดการสะสมของสิ่งสกปรกในบ่อ
.
7. เลือกพันธุ์ปลาดุก
การเลือกพันธุ์ปลาดุกเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เลี้ยงแล้วได้ผลดี ปลาดุกที่มาจากแหล่งเพาะพันธุ์คุณภาพจะโตไว แข็งแรง และมีอัตรารอดสูง พันธุ์ยอดนิยมที่คนนิยมเลี้ยง เช่น ปลาดุกอเมซอน และปลาดุกยักษ์ เพราะเลี้ยงง่าย โตเร็ว เหมาะกับการเลี้ยงในบ่อพลาสติก
.
การเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติกให้โตเร็วไม่ใช่แค่เรื่องให้อาหารเท่านั้น แต่ต้องดูแลทั้งน้ำ สุขภาพปลา และสภาพแวดล้อมโดยรวม หากจัดการได้ดีตามเทคนิคที่แนะนำจะช่วยให้ปลาดุกโตไว แข็งแรง และให้ผลผลิตตามเป้าหมาย ช่วยสร้างรายได้อย่างคุ้มค่าให้กับเกษตรกรครับ
………………………………………
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :
𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร
𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn
𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn
𝗦𝗵𝗼𝗽𝗲𝗲: shopee.co.th/kasetsanjorn
𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹: @kasetsanjorn
𝗕𝗹𝗼𝗰𝗸𝗱𝗶𝘁: blockdit.com/kasetsanjorn/
𝗧𝘄𝗶𝘁𝘁𝗲𝗿: twitter.com/kasetsanjorn/
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: kasetsanjorn.com