ปัญหาที่หนักอกหนักใจสำหรับพี่น้องชาวเกษตรส่วนใหญ่ ก็คือ การถูกเอารัดเอาเปรียบ กดราคาจากพ่อค้าคนกลางในการรับซื้อสินค้าผลผลิตของเรา เพราะบางท่านก็ไม่รู้ว่าจะเอาสินค้าไปจำหน่ายได้อีกที่ไหน
วันนี้เราเลยมีเคล็ดลับวิธีในการหาตลาดส่งออกสินค้าของเราออกไป เพื่อที่จะได้ไม่ต้องง้อพ่อค้าคนกลางอีกต่อไป
1. ตลาดใกล้บ้านก็ร้านค้าในหมู่บ้าน ฝากเขาขายไปเถอะ เขาชอบอยู่แล้วหละเพราะไม่ต้องรับผิดชอบแค่กินกำไรส่วนต่าง เช่นว่าเราให้ราคาที่มัดละ 5 บาทเดี๋ยวเขาไปบวกเพิ่มเองแหละ อาศัยขยันมัดเป็นกำๆ ชุดๆ หน่อยแล้วฝากวางขายตกเย็นไปเก็บเงินหากผักเหลือก็พากลับบ้าน อาจจะขายได้ไม่มากแต่ก็ควรจะรักษาตลาดเอาไว้ เพราะขืนปล่อยว่างไว้แล้ววันหนึ่งมีผักจากสวนอื่นมาวางแทนแล้วจะช้ำใจ
2. ตลาดนัดอาทิตย์ละครั้งหรือสองครั้งก็ว่ากันไป งานนี้ต้องกล้าคุยกล้าทักทายชนิดที่เรียกว่าน้องๆ หาเสียงเลยละกันทักไปเถอะเดี๋ยวดีเอง แม่ค้าอันนี้เท่าไหร่? ขายดีไหม? ซื้อมาจากไหน? แพงจัง ผมก็ปลูกลองไปดูที่สวนไหม? แนะเห็นไหมเสร็จเราแล้ว การเดินตลาดนัดบ่อยๆ เป็นการสำรวจตลาดอีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจเพราะจะเห็นได้ว่าพืชผักสวนครัวชนิดไหนขายดีบ้าง หรือถ้ามีเวลาก็วางขายเองซะเลยซึ่งก็ได้บรรยากาศอีกแบบหนึ่ง
3. แม่ค้าซื้อเหมาเจ้าประจำ แม่ค้าส่วนใหญ่จะชอบไปถึงหน้าสวนเพราะต้องการเห็นกำลังผลิต และหากเป็นแม่ค้าจากหมู่บ้านอื่นหรือขาจรส่วนใหญ่จะรู้ข่าวจากร้านค้าในหมู่บ้านนั่นแหละ ซึ่งการวางผักหรือผลผลิตทางการเกษตรของเราไว้ที่ร้านค้าบางทีก็มีประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์เช่นกัน
4. ขายตรงให้กับผู้บริโภค โดยการจัดจำหน่ายด้วยการใช้สื่อโซเชียลเป็นตัวกลาง ให้เรากับลูกค้าได้เจอกัน ซึ่งสื่อโซเชียลสมยนี้มีอยู่มากมาย เช่น Facebook , Line , Instagram , website ฯลฯ
5.การนำผักหรือผลไม้ของเรามาแปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของเรา เราสามารถที่จะขอคำปรึกษาทางด้านการตลาดที่หน่วยงานของภาครัฐต่างๆ ได้ ว่าเขามีโครงการที่จะช่วยเหลือ หรือมีการออกบูธจัดแสดงงานอะไรหรือเปล่า ซึ่งส่วนใหญ่องค์กรเหล่านี้จะมีผู้เชี่ยวชาญและคำแนะนำในการส่งเสริมสินค้าของเราอยู่แล้ว
และนี้ก็เป็นวิธีการหาตลาดเกษตรด้วยตัวเอง ทีสรุปให้เอาไปใช้กันได้ หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุก ๆ ท่านนะค่ะ