ปัจจุบันนี้สำหรับการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 แบบฉุดไม่อยู่ที่สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย และทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติง่ายๆ รัฐบาลไทยจึงต้องงัดทุกมาตรการที่จะช่วยระงับการแพร่กระจายโรค และลดผลกระทบภาคธุรกิจ แม้กระทั่งในภาคการเกษตรที่มีสัดส่วนประมาณ 10% ของทั้งหมด ถึงแม้ดูว่ามีสัดส่วนน้อยแต่มีคนที่เกี่ยวข้องจำนวนมากที่สุดเลยก็ว่าได้
รวมถึงยังมีปัญหาภัยแล้งในปี 63 ที่คาดว่าจะแล้งเข้าขั้นวิกฤตรุนแรง ที่เป็นผลกระทบแบบคูณสองของวิกฤตนี้ ล่าสุดศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ออกมาประเมินผลกระทบเบื้องต้นของภายแล้งในปี 2563 ว่าอาจทำให้เกิดความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจถึงประมาณ 17,000-19,000 ล้านบาท
ผนวกกับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้ทางการจีนประกาศปิดด่านขนส่งสินค้าสำคัญต่อเนื่องจากการหยุดตามปกติในเทศกาลตรุษจีนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์รวมทั้งเส้นทางการค้าผ่านแดนจากเวียดนามไปจีนก็หยุดดำเนินการชั่วคราวเพื่อเฝ้าระวังการระบาดของโรคทำให้ผู้นำเข้าผลไม้ต้องยกเลิกหรือชะลอคำสั่งซื้อผลไม้เนื่องจากที่ผ่านมาไทยส่งออกผลไม้สดซึ่งมีระยะเวลาการขนส่งและจัดเก็บจำกัดเป็นหลัก
เห็นได้จากมูลค่าการส่งออกผลไม้ทั้งหมดของไทยเดือนมกราคม 2563 ที่ปรับตัวลดลงกว่า 46.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยพิจารณาอัตราการเติบโตของมูลค่าการส่งออกในรูปของเงินบาทศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าผลกระทบดังกล่าวอาจฉุดรั้งการส่งออกผลไม้ไปจีนทั้งปี 2563 ให้อยู่ที่ระดับ 45,500-48,100 ล้านบาทหดตัวในช่วง -30 ถึง-25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของภายใต้สมมุติฐานที่การระบาดของโรคอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมได้ภายใน 3-4 เดือนนับตั้งแต่ช่วงเวลาที่เริ่มมีการระบาดของไวรัสส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกผลไม้ของไทยทั้งปี 2563 น่าจะหดตัวในช่วง -24 ถึง -21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 86,300-88,900 ล้านบาท
ทั้งนี้ไทยจำเป็นต้องพิจารณาแผนการตลาดรองรับผลผลิตที่จะทยอยออกสู่ตลาดไม่ว่าจะเป็นแผนการแปรรูปผลไม้ หรือจัดหาตลาดอื่นเพิ่มเติมเพื่อลดผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวในระยะสั้นนอกจากผลไม้ที่ได้รับผลกระทบแล้วข้าวมันสำปะหลัง และอ้อยยังเป็นพืชฤดูแล้งที่ได้รับผลกระทบจากผลผลิตเสียหายหนักที่สุดซึ่งอาจช่วยผลักดันราคาพืชฤดูแล้งกลุ่มนี้ให้ปรับตัวขึ้นได้ในระยะสั้น
รัฐบาลจึงต้องงัด2มาตรการช่วยเกษตร กระทรวงเกษตรได้กำหนดมาตรการป้องกัน และแก้ไขปัญหาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนโดยได้ข้อสรุป 2 มาตรการคือ
- มาตรการช่วยเหลือในการกระจาย และควบคุมคุณภาพสินค้าเกษตร
- มาตรการช่วยเหลือทางการเงินแก่สถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบการ
ซึ่งในแต่ละมาตรการจะมีโครงการย่อยและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรร่วมเป็นเจ้าภาพรับผิดชอบขณะที่กระทรวงพาณิชย์เตรียม 9 แนวทางผลักดันผลไม้กระจายในไทยและต่างประเทศลุ้นไปโรดโชว์ในตลาดจีนสำหรับรายละเอียดการช่วยเหลือของมาตรการที่ 1 จะช่วยเหลือในการกระจาย และควบคุมคุณภาพสินค้าเกษตรมีโครงการย่อย อาทิเช่น
โครงการประสานใจเกษตรกรไทยสู่พี่น้องชาวจีนสู่วิกฤตโควิด-19 ส่งมอบผลไม้ไทยให้พี่น้องชาวจีนช่วงวันที่ 25 เมษายนถึง 10 พฤษภาคม 2563 หากสถานการณ์แพร่ระบาดสงบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรพร้อมเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่งอัครราชทูตที่ปรึกษาด้านการเกษตรและทูตพาณิชย์จะเดินทางไปจัดโรดโชว์ และส่งมอบผลไม้ด้วยตนเองเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคเป้าหมายทุเรียน 20 ตัน และมังคุด 20 ตัน คุมท่องเที่ยวบุฟเฟต์ผลไม้
โครงการสินค้าเกษตรไทยปลอดภัยจากโควิด-19 ขอความร่วมมือหน่วยงานในพื้นที่ให้เข้มงวดเกี่ยวกับสุขอนามัยของแรงงานสำหรับผู้ประกอบการข้าวสวนผลไม่ให้ระมัดระวังการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวในลักษณะบุฟเฟต์ผลไม้ และมอบหมายคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) ติดตามผลการปฏิบัติการควบคุมโรคระบาดในพื้นที่อย่างเข้มงวด และรายงานต่อฟรุ๊ตบอร์ดเพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพสินค้าเกษตรไทย
ไม่ว่ารัฐจะให้ความสำคัญการแก้ปัญหาภัยแล้งหรือโรคโควิด-19 แต่คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดแบบหลีกหนี้ไม่ได้คือประชาชน ฉะนั้นไม่ว่ามาตรการที่ภาครัฐโหมออกมารับฤดูผลผลิตออกมาล้นตลาดในอีก 1 เดือนข้างหน้านี้จะช่วยเหลือเกษตรกรได้จริง หรือไม่ต้องตามดูสถานการณ์กันต่อไป
นอกจากนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ยังมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ในช่วงสู้กับภัยแล้ง และภัยโควิด-19 นี้ด้วย
(https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/869681)
อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการช่วยเหลือพี่น้องชาวเกษตรกร พวกเราชาวเกษตรสัญจรขอสนับสนุนการขายผ่านช่องทางออนไลน์แทนการขายในตลาดที่ถูกสั่งปิดอยู่ตอนนี้ และหากมีการบริหารจัดการระบบขนส่งได้ดีจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มให้แก่พี่น้องเกษตรกรได้อย่างแน่นอน และสินค้าจะต้องปลอดภัยต่อผู้บริโภคในช่วงนี้ด้วย
>>>>โดยสามารถมาฝากร้ายได้ในช่องทางเพจ facebook : เกษตรสัญจร ได้เลยนะครับ<<<<
(https://web.facebook.com/kasetsanjorn/)
เรียบเรียงโดย : ทีมงานเกษตรสัญจร
อ้างอิงข้อมูล
ส่องเศรษฐกิจภาคการเกษตร หวั่นโควิด -19 ควบแล้ง แรงคูณสอง สะกิดรัฐถึงเวลางัดมาตรการลดภัย