‘รมช.ประภัตร’ เตรียมลุยอีสานเร่งควบคุมโรคลัมปี สกิน ในโค-กระบือ Kick off ปล่อยขบวนสัตวแพทย์ ป้องกัน ควบคุมแมลงพาหะนำโรค ขอความร่วมมือผู้เลี้ยงห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ มั่นใจหยุดยั้งได้ ย้ำมีวัคซีนเพียงพอลอตแรก 6 หมื่นโด๊ส
นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า โรคลัมปี สกิน (Lumpy Skin Disease) ในโค กระบือ ถือเป็นโรคอุบัติใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เตรียมการเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมป้องกันตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 และเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 64 ตนในฐานะกำกับดูแลกรมปศุสัตว์ได้ลงพื้นที่ จ.ตาก เพื่อประชุมเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมโรคลัมปี สกิน โดยได้ปิดด่านชายแดนทั้งหมดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคจากประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนออกมาตรการเข้มงวด หากมีการเคลื่อนย้ายต้องตรวจเลือดโค กระบือทุกตัว และกักโค กระบือ 28 วัน โดยขณะนี้โรคดังกล่าวได้แพร่ระบาดใน 35 จังหวัด ทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้ และได้รับรายงานจากกรมปศุสัตว์ว่า มีโค กระบือป่วยกว่า 7,000 ตัว จาก 6 ล้านตัวทั่วประเทศ อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และกำชับให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งแก้ไขปัญหาการควบคุมโรคอย่างเร่งด่วน ดังนั้นเพื่อให้การควบคุม ป้องกัน และจำกัดโรค เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพื่อคลายความวิตกกังวลของพี่น้องเกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดทุกจังหวัด เตรียม Kick off รณรงค์ป้องกันและกำจัดโรคลัมปี สกิน ในวันที่ 25 – 26 พ.ค. 64 ณ จ.ขอนแก่น สกลนคร และมุกดาหาร โดยกิจกรรมประกอบด้วย การปล่อยขบวนสัตวแพทย์เคลื่อนที่ หน่วยพ่นยาทำลายเชื้อโรค แจกและพ่นสารเคมีกำจัดแมลงที่เป็นพาหะ แจกยารักษาแผลภายนอก ยาบำรุง แร่ธาตุ ตลอดจนให้ความรู้ความเข้าใจโรคและการป้องกันให้กับพี่น้องเกษตรกร พร้อมกันทั่วประเทศ พร้อมทั้งลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ของโรคอย่างใกล้ชิด
นายประภัตร กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนปฏิบัติการฉีดวัคซีนโรคลัมปี สกิน แบ่งเป็น 2 โซน คือ 1.พื้นที่เกิดโรค Infected Zone 50 กิโลเมตร โดยฉีดวัคซีนในอำเภอที่อยู่ในรัศมี 50 กิโลเมตรจากพื้นที่เกิดโรค และมีมาตรการห้ามเคลื่อนย้ายโค กระบือที่ฉีดวัคซีนออกจากคอกเลี้ยงเป็นระยะเวลา 30 วัน และ 2.พื้นที่เฝ้าระวังโรค Surveillance Zone 100 กิโลเมตร ไม่ฉีดวัคซีน สามารถเคลื่อนย้ายภายใต้การกำกับดูแลของเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นวัคซีนเชื้อเป็น การดำเนินการฉีดวัคซีนต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมปศุสัตว์ รวมทั้งต้องมีการทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ที่ฉีดวัคซีนทุกตัว
“การนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน ลอตแรกจะถึงในวันศุกร์ที่ 28 พ.ค. นี้ จำนวน 60,000 โด๊ส ทั้งนี้การออกให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันแก่โค-กระบือของเกษตรกร จะดำเนินการตามแผนปฏิบัติการของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาโรคลัมปี สกิน เป็นผู้พิจารณา โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงนามแต่งตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนต้องปฏิบัติควบคู่กับมาตรการของกรมปศุสัตว์ โดยเฉพาะควบคุมการเคลื่อนย้าย และกำจัดแมลงพาหะของโรค ในส่วนของเกษตรกรที่มีความตื่นตระหนกและมีความต้องการวัคซีนสูง ขอชี้แจงว่าวัคซีน 60,000 โด๊สนี้ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาโรคลัมปี สกิน จะทำการแจกจ่ายไปตามพื้นที่ที่เกิดโรคในขณะนี้ก่อน ซึ่งบางจังหวัดยังไม่เกิด แต่มีความต้องการด้วย จึงเตรียมของบกลางเพิ่มอีกสำหรับจังหวัดที่ต้องการ” นายประภัตร กล่าว
ทั้งนี้ ได้รับรายงานสถานการณ์โรคลัมปีสกิน (ข้อมูล ณ วันที่ 21 พ.ค. 2564) พบรายงานการเกิดโรคลัมปี สกินใน 35 จังหวัด เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ 2,172 ราย โคกระบือป่วยสะสม 7,200 ตัว และตายสะสม 53 ตัว คิดเป็นอัตราป่วยเฉลี่ย 27% อัตราตายเฉลี่ย 0.19%
นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคลัมปี สกิน เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส จะเกิดเฉพาะในโค-กระบือ ไม่ติดต่อจากสัตว์สู่คน รักษาหายได้ และสามารถบริโภคได้ โดยสัตว์ที่ป่วยจะมีอาการที่สามารถสังเกตได้คือ พบตุ่มเนื้อบนผิวหนัง และเยื่อเมือกทั่วร่างกาย ซึ่งต่อมาจะตกสะเก็ดและเป็นแผลหลุม สัตว์อาจมีไข้และหายใจลำบากร่วมด้วย ขอให้พี่น้องเกษตรกรหมั่นดูแลสุขภาพของโค-กระบือ ให้มีสุขภาพแข็งแรง หากพบสัตว์มีอาการผิดปกติ สงสัยว่าป่วยให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัด หรือปศุสัตว์อำเภอในท้องที่ หรือโทรศัพท์สายด่วน 06-3225-6888 หรือทางแอพพลิเคชั่น DLD4.0 เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ 5 มาตรการควบคุมและป้องกันโรคลัมปี สกิน มีดังนี้ 1) ควบคุมการเคลื่อนย้ายโค กระบือ เพื่อลดการแพร่กระจายของโรค และปฏิบัติตามแนวทางการเคลื่อนย้ายของกรมปศุสัตว์อย่างเคร่งครัด 2) เฝ้าระวังการเกิดโรคอย่างใกล้ชิด เน้นการรู้โรคให้เร็ว ควบคุมได้ทัน โรคสงบได้อย่างรวดเร็ว 3) การป้องกัน และควบคุมแมลงพาหะนาโรค 4) รักษาสัตว์ป่วยตามอาการ เพื่อลดความสูญเสียแก่เกษตรกร และ 5) การใช้วัคซีนควบคุมโรค กรณีมีความจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายให้ปฏิบัติตามตามแนวทางการเคลื่อนย้ายที่กรมปศุสัตว์กำหนด จึงย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจตราอย่างเข้มงวด หากพบการกระทำความผิด ให้ดำเนินคดีความกฎหมายอย่างเคร่งครัด.
#PRNews #กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ #เกษตรสัญจร #โรคลัมปีสกิน #โคกระบือ #สัตวแพทย์ #ควบคุมแมลง #พาหะนำโรค
—————————
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
Facebook: facebook.com/kasetsanjorn
YouTube: youtube.com/c/Kasetsanjorn
Twitter: twitter.com/kasetsanjorn/
Website: kasetsanjorn.com