ปัจจุบันนี้การซื้อขายออนไลน์กลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมมากนะครับ เพราะถ้าคิดในแง่ของผู้บริโภค ก็ถือเป็นความสะดวกสบายของชีวิตทีเดียวแหละ ลองสำรวจตัวเองดูสิครับ คุณต้องมีคลิกซื้อของออนไลน์กันบ้างล่ะ ทั้งนี้เพราะการเข้าถึงเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต และสมาร์ทโฟน ที่เป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการซื้อขายออนไลน์สามารถทำได้ง่ายขึ้น ปี 2561 พบว่าประเทศไทยมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตกว่า 57 ล้านคน มีผู้ใช้มือถือประมาณ 55.56 ล้านเครื่อง และมีผู้ใช้งานสื่อโซเชียลมีเดียผ่านสมาร์ทโฟนประมาณ 46 ล้านเครื่อง ซึ่งกิจกรรมหนึ่งที่เติบโตคู่กันก็คือการซื้อขายสินค้าออนไลน์ ไม่เว้นแม้แต่สินค้าเกษตร
แล้วเทรนด์นี้เองครับที่มีส่วนผลักดันให้เกษตรกรไทยต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อก้าวให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนไป ที่สำคัญที่สุด นี่อาจจะเป็นโอกาสดีมากสำหรับเกษตรกรไทย ถ้าสามารถนำสินค้าเกษตรของตัวเองเข้าสู่ตลาดออนไลน์ได้ ในแง่ผู้ซื้อหรือผู้บริโภค เราก็จะได้ของดี สด ใหม่ ส่งตรงจากผู้ผลิตแบบรู้ที่มาที่ไป ถือว่าวินวินนะครับ
“เมื่อโลกเปลี่ยน การทำเกษตรยุคใหม่จึงไม่ใช่แค่การเป็นผู้ปลูกอย่างเดียว แต่ต้องมองให้ครบรอบด้าน ตั้งแต่ต้นทางการผลิตไปจนถึงตลาดปลายทาง ให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้บริโภค รู้จักใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยยกระดับธุรกิจ”
โดยค้าขายกันเองแบบเปิดแฟนเพจขึ้นมาง่าย ๆ พอขายดีมาก ๆ เข้า ก็ค่อยขยับไปเป็นเว็บไซต์ โดยสมัครกับเว็บดัง ๆ ที่น่าเชื่อถือ เป็นลักษณะ Market Place อารมณ์เหมือนกับนำสินค้าคุณขึ้นห้างอย่างนั้นล่ะครับ ซึ่งมีข้อดีคือ คุณไม่ต้องยุ่งยากเรื่องการบริหารระบบหลังบ้าน คนเข้าเยอะ ห้างเองก็จะช่วยโปรโมท ทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสเข้าถึงสินค้าของคุณได้มากกว่า จนเมื่อมีฐานลูกค้ามากพอจึงค่อยสร้างเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เมื่อถึงขั้นตอนนี้สินค้าเกษตรของคุณก็จะมีหน้าร้านของตัวเอง และมีวางขายอยู่บนห้างด้วย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถต่อยอด และขยับขยายไปได้กว้างไกล พอจะมองเห็นภาพการเป็นเกษตรกรออนไลน์กับบ้างแล้วใช่ไหมครับ
เมื่อมีร้านแล้วก็ต้องไม่ลืมใส่ใจสินค้าของเราด้วย การซื้อของออนไลน์ไม่ใช่แค่การซื้อของ แต่เป็นประสบการณ์อย่างหนึ่งเพื่อให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาซื้ออีกครั้ง ดังนั้น สิ่งที่เกษตรกรออนไลน์จะต้องให้ความสำคัญคือ
- หาจุดเด่นของสินค้าว่าคืออะไรเช่น ถ้ามีข้าวไรซ์เบอร์รี่ 10 เจ้าของเราแตกต่างหรือเด่นกว่าเจ้าอื่นอย่างไร
- การจัดแพ็คเกจ (Packaging)ที่ดึงดูดใจ และช่วยสร้างมูลค่า
- รูปภาพที่โพสต์ขายต้องสวยและดูน่าสนใจ
- รายละเอียดสินค้าต้องชัดเจนเช่น น้ำหนักเท่าไหร่, ไซส์อะไร, หมายเลข อย.ฯลฯ
- มี Content สนับสนุนสินค้าเช่น ผักชนิดนี้มีสารอาหารอะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง, หรือเป็นทุเรียนที่ปลูกในดินภูเขาไฟ เป็นต้น
- สร้างเรื่องราวให้ดูน่าสนใจและเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายเช่น ถ้าเป็นพืชผักอินทรีย์ที่มีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่คนรักสุขภาพ ก็อาจจะเป็นเรื่องราว เช่น การปลูกชาที่เป็นออแกนิกส์ร้อยเปอร์เซ็นต์ มีกรรมวิธีการผลิตที่ใส่ใจ เก็บมาตาก และบดด้วยมือ เป็นต้น
เป็นอย่างไรครับ พอจะเห็นแนวทางกันแล้วใช่ไหมครับว่า เราจะเริ่มต้นเป็นเกษตรกรออนไลน์จากอะไร ถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะสามารถปรับตัว และเริ่มต้นได้ด้วยตัวเอง ขอเสนอทางลัดว่า ต้องมองหาผู้เชี่ยวชาญ หรือเครื่องมือดี ๆ มาเป็นผู้ช่วยครับ อย่างที่ตลาดแอป แพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อทุกภาคส่วนของเกษตรกรรม ซึ่งรวมถึงแหล่งทำการซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรขนาดใหญ่ด้วย บอกเลยว่าที่นี่เขาเตรียมทุกอย่างไว้ให้พร้อมหมด และก็ใช้งานได้ง่ายมาก ๆ เพียงแค่คลิกเข้าไปสมัครเป็นสมาชิก คุณก็สามารถจะเป็นเกษตรกรออนไลน์และทำการซื้อขายสินค้าโดยตรงกับผู้บริโภคได้แล้ว ลองเข้าไปกันดูครับ