นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และประธานคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท เปิดเผยถึงกรณีที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ระบุว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ส่งรายชื่อเกษตรกร ซึ่งตรวจสอบพบว่าเป็นเกษตรกรที่เสียชีวิตแล้วกว่า 1 แสนราย มารับสิทธิ์เงินเยียวยา 5,000 บาทว่า
เป็นหน้าที่ที่กระทรวงเกษตรฯ ต้องไปพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรกับเกษตรในกลุ่มนี้ และนำมาเสนอให้คณะกรรมการกลั่นรองพิจารณาว่าจำเป็นต้องให้เงินช่วยเหลือหรือไม่ในทางปฏิบัติกระทรวงเกษตรฯ ต้องไปไล่ดูว่า กรณีที่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนสมุดเขียว และปรากฏว่าเสียชีวิตแล้ว ลูกหลานหรือทายาทในทะเบียนเกษตรมีการประกอบอาชีพเกษตรกรต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นไปได้ว่า ทำเกษตรกรรมต่อ แต่ไม่ได้อัพเดตข้อมูล แต่ถ้าปรากฏว่าทายาทไม่ได้ทำเกษตร แต่มาทำงานในเมือง เงินเยียวยาในส่วนนี้ก็ต้องหายไป
“เป็นหน้าที่กระทรวงเกษตรต้องไปพิจารณาดูว่าใครเหมาะสมที่จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ซึ่งในหลักของคณะกรรมการกลั่นกรอง ไม่ต้องการให้แจกเงินเยียวยาซ้ำซ้อน ถ้าไม่ได้ทำเกษตรก็ไม่ควรได้ เพราะกลุ่มนี้อาจได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทไปแล้ว หรือได้รับมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ จากรัฐไปแล้ว”นายทศพร กล่าว
นายทศพร กล่าวว่า ยืนยันรัฐบาลได้เตรียมงบประมาณเพียงพอสำหรับแจกเงินเยียวยาให้เกษตรกร 10 ล้านคน ในวงเงิน 1.5 แสนล้านบาท หากกระทรวงเกษตรพิจารณาแล้วเห็นว่า ทายาทของเกษตรกรที่เสียชีวิตแล้ว ยังทำเกษตรอยู่จริง และยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ รัฐก็พร้อมโอนเงินเยียวยา 5,000 ให้ เพียงแต่ในหลักการต้องไม่ซ้ำซ้อน เช่น กรณี ข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ ที่คณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาแต่แรกแล้วว่าไม่ควรได้รับเงินเยียวยา ต้องถูกถอดออกเพราะกลุ่มนี้ได้รับสวัสดิการจากรัฐไปแล้ว