ฤดูฝนมาถึงทีไร เกษตรกรหลายคนอาจลังเล จะปลูก ข้าวเหนียว หรือ ข้าวเจ้า ดี? วันนี้เกษตรสัญจรรวบรวมข้อมูลเปรียบเทียบ พร้อมเทคนิคเลือกพันธุ์ข้าวให้เหมาะกับสภาพฝนฟ้าในช่วงนี้ มาฝากกันครับ
.
ทำไมการเลือกพันธุ์ข้าวให้เหมาะกับฤดูฝนจึงสำคัญ?
เพราะช่วงหน้าฝนมักมาพร้อมความท้าทาย ทั้งน้ำหลาก โรคระบาด และดินที่มีความชื้นสูง หากเลือกพันธุ์ไม่เหมาะ อาจเสี่ยงต่อปัญหา เช่น รากเน่า ต้นไม่แข็งแรง หรือผลผลิตลดลง ดังนั้น การเลือกพันธุ์ที่มีความทนน้ำ ต้านโรค และปรับตัวได้ดีในสภาพดินชื้น จึงเป็นกุญแจสำคัญในการปลูกข้าวฤดูฝนให้ได้ผลดี
.
เปรียบเทียบข้อดี – ข้อสังเกต ข้าวเหนียว กับ ข้าวเจ้า
ข้าวเหนียว เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศและวิถีการบริโภคในพื้นที่ยังคงมีความต้องการสูง โดยเฉพาะในตลาดท้องถิ่นที่นิยมบริโภคข้าวเหนียวเป็นหลัก พันธุ์ที่แนะนำสำหรับฤดูฝน ได้แก่ กข6 ซึ่งเป็นพันธุ์ที่อายุสั้น ปลูกง่าย และทนต่อสภาพแห้งแล้งและน้ำขังได้พอประมาณ อีกพันธุ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมมากในภาคเหนือคือ สันป่าตอง 1 ที่ให้เมล็ดข้าวคุณภาพดีและมีรสชาติดีเป็นที่ต้องการของตลาด
อย่างไรก็ตาม ข้าวเหนียวบางสายพันธุ์อาจไม่ทนต่อโรคไหม้ ซึ่งมักเกิดในช่วงที่ฝนตกชุก หากปลูกในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือติดโรคง่าย ควรพิจารณาเลือกพันธุ์ที่มีความต้านทานสูง หรือจัดการแปลงให้มีระบบระบายอากาศและน้ำที่ดีเพื่อลดความเสี่ยง
.
ข้าวเจ้า เป็นพันธุ์ที่เหมาะสำหรับพื้นที่ภาคกลางและเขตลุ่มน้ำ เนื่องจากสามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีน้ำเพียงพอ และยังเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่นิยมข้าวเมล็ดยาว ข้าวหอม และข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง พันธุ์ที่ได้รับความนิยมในฤดูฝน ได้แก่ กข15 ซึ่งมีความทนทานต่อโรคและดินเปรี้ยว เหมาะกับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงด้านสภาพดินและความชื้น กข43 เป็นพันธุ์ข้าวที่มีปริมาณน้ำตาลต่ำ เหมาะกับผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ จึงเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหอมปทุมธานี 1 ถือเป็นพันธุ์ยอดนิยมในกลุ่มข้าวหอม ที่มีลักษณะเมล็ดยาว คุณภาพดี และเป็นที่ต้องการในตลาดภายในประเทศและส่งออก
อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังในพื้นที่ที่มีปัญหาน้ำท่วมขังนาน เนื่องจากข้าวเจ้าบางพันธุ์อาจไม่ทนทานต่อสภาวะดังกล่าว หากต้องปลูกในพื้นที่ลุ่มน้ำที่ไม่มีระบบระบายน้ำที่ดี ควรเตรียมระบบจัดการน้ำให้เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้รากเน่าหรือข้าวยืนต้นตายจากน้ำท่วมซ้ำซาก
.
เทคนิคการเลือกพันธุ์ข้าวสำหรับปลูกในฤดูฝนตามคำแนะนำของกรมการข้าว คือการพิจารณาพื้นที่ปลูกว่ามีลักษณะเป็นที่ลุ่มหรือที่ดอน เพื่อเลือกพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่นั้น ๆ นอกจากนี้ควรเลือกสายพันธุ์ที่มีความทนทานต่อโรคและสามารถทนน้ำขังได้ดี เพื่อป้องกันความเสียหายจากสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน การวางแผนตลาดปลายทางก็สำคัญไม่แพ้กันว่าจะปลูกเพื่อกินเอง ขายในตลาดท้องถิ่น หรือส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยกำหนดพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมได้อย่างชัดเจน สุดท้ายควรเน้นพันธุ์ที่มีอายุเก็บเกี่ยวสั้น เพื่อความปลอดภัยหากเกิดฝนตกหนักหรือน้ำหลากก่อนเวลาที่คาดการณ์ไว้
.
สำหรับเกษตรกรที่ปลูกข้าวเพื่อบริโภคในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ข้าวเหนียวพันธุ์กข6 และสันป่าตอง 1 ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการได้ดี ส่วนเกษตรกรที่ปลูกข้าวเพื่อจำหน่ายในพื้นที่ที่มีการจัดการน้ำได้ดี ควรเลือกปลูกข้าวเจ้าพันธุ์กข15 กข43 หรือหอมปทุมธานี 1 ซึ่งเป็นพันธุ์ที่เหมาะกับตลาดและมีผลผลิตที่ดี ใครที่กำลังปลูกพันธุ์ไหนอยู่ หรือมีเทคนิคดี ๆ ในการปลูกข้าวฤดูฝน อย่าลืมมาแลกเปลี่ยนแชร์ประสบการณ์กันในคอมเมนต์นะครับ
………………………………………
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :
𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร
𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn
𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn
𝗦𝗵𝗼𝗽𝗲𝗲: shopee.co.th/kasetsanjorn
𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹: @kasetsanjorn
𝗕𝗹𝗼𝗰𝗸𝗱𝗶𝘁: blockdit.com/kasetsanjorn/
𝗧𝘄𝗶𝘁𝘁𝗲𝗿: twitter.com/kasetsanjorn/
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: kasetsanjorn.com