ก่อนที่จะมาทำการเกษตรแบบอินทรีย์


ชลิตา ไทยแก่น หรือ พี่กระถิน เกษตรกรที่หันมาทำสวนในรูปแบบเกษตรอินทรีย์ตามรอยพ่อ พี่กระถิน เคยอยู่ทำงานอยู่ที่กรุงเทพมาก่อน หลังจากแต่งงานมีครอบครัวจึงกลับมาอยู่บ้าน และมองว่าอยากสร้างแหล่งอาหารที่ปลอดภัยไว้ที่บ้าน จากแนวคิด “ข้าวปลอดสาร อาหารปลอดภัย” จากสถาบันเศรษฐกิจพอเพียงบางคล้า ที่ได้ชวนพี่กระถินไปเข้าร่วมอบรม และรู้จักแนวความคิดจากอาจารย์ยักษ์ที่มาให้ความรู้ในเรื่องศาสตร์พระราชา จึงมีความคิดที่จะนำสิ่งดี ๆ เหล่านี้ มาทำที่บ้าน
การทำเกษตรกับงานที่เคยทำต่างกันอย่างไร ?


พี่กระถินอยากอยู่กับธรรมชาติ อยากมีการทำเกษตรอินทรีย์ที่บ้าน จึงปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ และเปลี่ยนพื้นที่สวนในบ้านจากบ่อปลา 2 บ่อและการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ให้กลายเป็นสวนเกษตรอินทรีย์
จุดเริ่มต้นในการทำเกษตรอินทรีย์
พี่กระถินศึกษาความรู้เรื่องการทำเกษตร และเริ่มคุยกับครอบครัว แต่ที่บ้านไม่เห็นด้วย เนื่องจากกลัวว่ามีหนี้สินอยู่จะไม่สามารถทำได้ ให้รอหมดหนี้ก่อนถึงจะเริ่มทำการเกษตรตามรอยพ่อได้ แต่พี่กระถินมีความคิดว่าหากรอหมดหนี้หมดสินก่อนเราก็จะหมดแรงเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราจึงควรทำไปพร้อม ๆ กัน จะดีกว่า จนทางบ้านยอมตกลง
หลังจากคุยกับที่บ้านแล้วทำอะไรเป็นอย่างแรก ?
พี่กระถินเริ่มประเมินพื้นที่ทั้งหมด และออกแบบ โดยอยากให้มีฐานเรียนรู้ต่าง ๆ ภายในศูนย์เหมือนกับที่เคยไปดูงาน เพราะแพลนไว้ว่าในอนาคตต้องการให้ที่สวนกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ มีฐานการทำปุ๋ย ทำดิน โดยใช้หลักการ “เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง” มาใช้
ช่วงแรกที่ทำมีอุปสรรค์อะไรบ้าง ?


ในช่วงแรกพี่กระถินยังไม่ค่อยมีเงินทุน จึงค่อย ๆ ทำ มีแค่ไหนทำแค่นั้น โดยเริ่มจากการปลูกผักให้แม่เห็นว่าสามารถทำได้ และค่อย ๆ ขยายไปทีละจุดจนปัจจุบัน
นอกจากไปศึกษาดูงานแล้วได้ความรู้จากที่ไหนอีกบ้าง ?
พี่กระถินไปศึกษาดูงานจากหลาย ๆ ที่และนำมาลงมือทำจริง โดยมีความตั้งใจที่จะทำตามรอยพ่อ ทำยังไงให้สามารถประหยัดและลดต้นทุนในบ้าน และที่สำคัญคือความปลอดภัย
พื้นที่เกษตรแบบอินทรีย์ทั้งหมดเท่าไหร่ ?


พี่กระถินทำศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ทั้งหมดในพื้นที่ 13 ไร่ โดยเน้นการทำเกษตรอินทรีย์ทฤษฎีใหม่และเน้นแหล่งน้ำเป็นส่วนสำคัญ พี่กระถินจะขุดบ่อลึก 6 เมตร ทุกบ่อ และเชื่อมต่อด้วยท่อ สำหรับใช้ในสวน โดยฐานแรกที่เข้ามาในศูนย์จะเป็นฐานการเลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดี ฐานการทำดินทำปุ๋ย
ตั้งแต่เริ่มทำจนถึงปัจจุบันใช้เวลากี่ปี ?


พี่กระถินเริ่มปรับพื้นที่ในปี 57 และเริ่มต้นทำเกษตรแบบอินทรีย์ในปี 58 จนปัจจุบัน เป็นระยะเวลามากกว่า 9 ปี พี่กระถินมีความสุข ได้อยู่กับธรรมชาติและคนในครอบครัว รวมถึงคนรอบ ๆ บ้านก็มาช่วยดูแล
ข้อดีของอาชีพเกษตรกร
ข้อดีของการกลับมาทำเกษตรคือไม่ต้องแบกรับความเครียด เป็นอาชีพที่อิสระ อยากจะทำอะไรหรือพักในเวลาไหนก็ได้ ที่สำคัญคือ มีแหล่งอาหารที่ปลอดภัยโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อ
หลังจากได้ใช้ชีวิตแบบนี้รู้สึกอย่างไร ?


สิ่งสำคัญที่ได้รับคือความสุข คนในครอบครัวเห็นว่าเราทำได้จริง โดยพี่กระถินจะปลูกฝังให้ลูก ๆ ทั้ง 3 คนได้ช่วยทำการเกษตร เช่น ในช่วงเช้าเด็ก ๆ จะไปช่วยเก็บไข่มาทำอาหารด้วย
ศูนย์เรียนรู้ที่นี่เกิดขึ้นได้อย่างไร ?


พี่กระถินไม่ได้คิดตั้งแต่แรกว่าที่นี่จะกลายเป็นศูนย์เรียนรู้ คิดเพียงแค่ว่าเป็นแหล่งเรียนรู้บ้าน ๆ เท่านั้น แต่มีหน่วยงานที่เล็งเห็นว่าพี่กระถินตั้งใจทำจริง สามารถสอนคนได้ จึงมีหน่วยงานภาครัฐเริ่มพาเกษตรกรเข้ามาศึกษาดูงาน
นอกจากปลูกผักกินเองแล้วทำอะไรบ้าง ?


นอกจากการเกษตร พี่กระถินยังมีการทำของใช้ในครัวเรือนเอง เช่น การทำน้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างรถ แชมพู รวมถึงการทำน้ำหมักมูลไส้เดือนจำหน่าย ซึ่งเป็นการลดรายจ่ายในครัวเรือนที่ต้องใช้จ่ายได้เกือบครบหมดแล้ว และสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัว
แนะนำคนที่ทำเกษตรต้องเริ่มต้นอย่างไร ?
การทำเกษตรควรเริ่มต้นที่จุดเล็ก ๆ เริ่มทำจากที่เราทำได้ก่อน และมองว่าเราอยากจะทำอะไร ที่สำคัญคือการใช้ใจ ศึกษาองค์ความรู้ให้มั่นใจก่อนที่จะเริ่มลงทุน
แรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตคืออะไร ?


พ่อหลวงจะเป็นแรงบันดาลใจของพี่กระถิน ไม่ว่าจะมีอุปสรรค์มากมายแค่ไหน จะมีพ่อหลวงเป็นพลัง ทำให้ไม่เหนื่อย ไม่ท้อ จึงอยากให้หลาย ๆ คนมองภาพที่พระองค์ท่านทำเพื่อประชาชน และอยากให้เข้ามาศึกษา ที่ศูนย์เรียนรู้ ทั้งเรื่องดิน เรื่องน้ำ และค่อยลงมือทำแก้ปัญหาให้ถูกจุด เชื่อว่าทุกคนสามารถทำได้
………………………………………
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :
𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร
𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn
𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn
𝗦𝗵𝗼𝗽𝗲𝗲: shopee.co.th/kasetsanjorn
𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹: @kasetsanjorn
𝗕𝗹𝗼𝗰𝗸𝗱𝗶𝘁: blockdit.com/kasetsanjorn/
𝗧𝘄𝗶𝘁𝘁𝗲𝗿: twitter.com/kasetsanjorn/
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: kasetsanjorn.com