“ผมว่าผมโชคดีที่เกิดมายากจน ผมเรียนรู้ที่จะต่อสู้และเอาชนะปัญหา ทำให้ผมมองหาธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้เราได้ทุกวัน และที่สำคัญคือต้นทุนน้อย ผมจึงเลือกที่จะเลี้ยงนกกระทา เพราะนกกระทานั้นให้ไข่เราแทบทุกวันคิดเป็น 70-80 เปอร์เซ็นและเลี้ยงไม่ยาก อยากเลี้ยงนกกระทาก็เลี้ยงได้เลย แต่จะประสบความสำเร็จได้นั้น คุณต้องตั้งใจจริง ต้องรู้จักการทำตลาด ขายให้เป็น คุณอาจจะทำผลผลิตได้ดีมีคุณภาพ แต่ถ้าไม่ถนัดเรื่องการขาย คุณก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ” คุณอเนก เขียวสด เกษตรกรเลี้ยงนกกระทา
คุณอเนก เขียวสด ตำนานเกษตรกร สู้ชีวิต ผู้พลิกชีวิต จากเด็กชายธรรมดาที่จบการศึกษาป.7 สู่เจ้าของธุรกิจ เอสเอ็มอี ที่มีชื่อเสียงไปไกลถึงต่างประเทศ ด้วยแนวคิดการสร้างเครือข่ายเกษตรกรกว่า 100 ครอบครัว จาก 20 จังหวัดทั่วประเทศ สามารถผลิตไข่ได้วันละ 20 ล้านฟอง มีเงินหมุนเวียนในกลุ่มกว่า 200 ล้านบาทต่อปี
จากเด็กที่เกิดในครอบครัวที่ยากจนทำงานรับจ้างทุกอย่างต่อสู้ชีวิต มีความฝันอยากจะเป็นเถ้าแก่ อยากจำประสบความสำเร็จมีธุรกิจเป็นของตัวเองเลือกจะเลี้ยงนกกระทาเพราะว่า มีแม่ค้ามาบอกให้เลี้ยงแล้วเขาจะรับซื้อเอง ปรากฏเขารับซื้อจริงเฉพาะตอนที่เขาขายได้ แต่พอขายไม่ได้ ก็ไม่ซื้อ ก็เลยแก้ไขปัญหาด้วยการเอาไปขายเอง เร่ขายในกรุงเทพฯ ตอนนั้นราคาถูกแค่ไหนเขาก็ไม่ซื้อ เลยเสนอเขาว่า ไม่ต้องซื้อผมทั้งหมดหรอก และเงินก็ยังไม่ต้องจ่ายผมก็ได้ มาครั้งหน้าค่อยจ่าย เขาก็เลยตกลงซื้อ ครั้งแรกขายหมด 1 หมื่นฟอง เรียกว่าหลักการ ขาดทุนวันนี้เพื่อกำไรในวันหน้า
ค้นพบข้อดีของการเลี้ยงนกกระทา 3ข้อ 1. นกกระทาให้ผลผลิตไว ให้ผลผลิตแทบทุกวันคิดเป้นอัตราเฉลี่ย 70-80 เปอร์เซ็น 2.ต้นทุนต่ำ 3.ใช้พื้นที่น้อย (ตอนแรกเลี้ยงแค่ใต้ถุนบ้าน)
เติบโตจากธุรกิจเล็ก ๆ จนกลายเป็นเจ้าของอาณาจักรฟาร์มนกกระทาขนาดใหญ่ มีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากนกกระทาอย่างครบวงจร จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ และกลายเป็นธุรกิจนกกระทาใหญ่ที่สุดในอาเซียนได้ โดยการจากแนวคิดการสร้างเครือข่าย ใช้หลักการ “กินแบ่ง ไม่กินรวบ” นั่นคือ “แบ่งอาชีพ” โดยให้โอกาสคนอื่น ๆได้เป็นเถ้าแก่ โดยมาเป็นเครือข่ายผู้เลี้ยงนกกระทากับเอนกฟาร์ม ใช้วิธี “แบ่งรายได้” ช่วยกระจายเม็ดเงินให้แก่ผู้คนในห่วงโซ่ธุรกิจ และ “กระจายความเสี่ยง” อย่างกรณีเกิดภัยพิบัติ เกิดโรค หรืออุบัติเหตุไม่คาดฝันในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ก็ยังมีพื้นที่อื่น ๆ สามารถสร้างผลผลิตให้ได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ธุรกิจหยุดชะงัก หรือกระทบกับคำสั่งซื้อของลูกค้า
การเลี้ยงและต้นทุน ตัวอย่างการเลี้ยงและต้นทุน เลี้ยง 1 โรงเรือนต่อ 1 คน ประมาณ 15,000 ตัว โรงเรือนขนาด 10×20 เมตร เลี้ยงนก 4 ชั้น ลงทุนแล้วแต่วัสดุในการสร้างโรงเรือน เพื่อลดต้นทุนการผลิตนก 1 ตัว ราคาตัวละ 13.50 บาท เลี้ยง 15 วัน ออกไข่ได้ เมื่อเลี้ยงไปประมาณ 10 เดือน เป็นนกปลดระวาง สามารถขายได้ตัวละ 6-7 บาท เฉลี่ยนกตัวหนึ่งจะมีราคาอยู่ที่ 7 บาท ปริมาณไข่ที่ออกมาจะอยู่ที่ประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ของนกกระทาทั้งหมดส่วนค่าอาหารเฉลี่ย 1 ตัว กินประมาณ 23 กรัม วันละ 3 ครั้ง คิดเป็นเงินประมาณ 35 สต.ต่อตัวต่อวัน ราคารับซื้อไข่ร้อยละ 62 บาท
ระบบเครือข่าย แทนที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจแต่ผู้เดียว เขากลับมาสร้างเครือข่ายผู้เลี้ยงนกกระทา เปิดโอกาสให้คนอื่นมีฟาร์มของตัวแทนที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจแต่ผู้เดียว เขากลับมาสร้างเครือข่ายผู้เลี้ยงนกกระทา เปิดโอกาสให้คนอื่นมีฟาร์มของตัว
ภูมิใจที่ได้ทำตามฝันของจนเอง และได้ส่งต่ออาชีพและความรู้เรื่องการเลี้ยงนกกระทาสู่ชุมชนและผู้ที่สนใจ “เราต้องคิดว่าทำแล้วขายใคร คือการตลาดต้องนำการผลิต… เราต้องทำในสิ่งที่ตลาดชอบ อย่าทำในสิ่งที่ตนเองชอบ” คือหลักคิดง่ายๆ แต่ดูเหมือนว่าจะทำอยากในความรู้สึกของคนทั่วไป”