ปลูกพริกเดือนไหน ถึงเก็บทันตอนราคาพุ่ง?

1. เลือกพันธุ์ให้เหมาะกับพื้นที่

พริกจินดาและพริกชี้ฟ้าเหมาะกับพื้นที่ร้อนชื้น ขณะที่พันธุ์ทนแล้งเหมาะกับพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน ซึ่งงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตรระบุว่าการเลือกพันธุ์ต้านทานโรคสามารถช่วยลดการสูญเสียผลผลิตได้ถึง 30%

2. เตรียมดินให้สมบูรณ์

ควรใช้ดินร่วนซุยที่ระบายน้ำดี มีค่า pH 5.5–6.8 ใส่ปุ๋ยคอกเก่าหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุ และควรตรวจวิเคราะห์ดินก่อนปลูกเพื่อปรับสูตรปุ๋ยให้ตรงกับความต้องการของดิน

3. ดูแลน้ำอย่างพอดี

รดน้ำสม่ำเสมอในช่วงต้นกล้าและช่วงออกดอก แต่ควรลดการให้น้ำก่อนเก็บเกี่ยว เพื่อให้พริกมีสีเข้มและเก็บรักษาได้นานขึ้น

4. การใส่ปุ๋ยตามระยะ

ในระยะต้นกล้าให้ใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 เมื่อพริกเริ่มติดดอกควรเพิ่มโพแทสเซียม เช่น สูตร 13-13-21 เพื่อกระตุ้นการออกดอกและติดผล พร้อมเสริมแคลเซียม-โบรอนเพื่อลดปัญหาผลเน่า

5. ป้องกันโรคและแมลงอย่างยั่งยืน

ควรใช้วิธีผสมผสาน เช่น ปลูกพืชล่อแมลงและตรวจแปลงทุกสัปดาห์ พร้อมใช้สารชีวภัณฑ์ Bacillus subtilis ป้องกันโรคราแป้งและแอนแทรคโนส และหมุนเวียนปลูกพืชตระกูลอื่นเพื่อลดการสะสมโรคในดิน

.

1. คัดแยกขนาดและคุณภาพก่อนขาย เพื่อให้พริกดูน่าซื้อและได้ราคาสูงขึ้น

2. ทำสัญญาซื้อขายกับโรงงานหรือพ่อค้าล่วงหน้า

3. ใช้ช่องทางออนไลน์ขายตรงสู่ผู้บริโภค เช่น ตลาดเกษตรออนไลน์ หรือกลุ่มเกษตรใน Facebook

.

การปลูกพริกให้ได้ราคาดีไม่ใช่เรื่องของโชคชะตา แต่เกิดจากการวางแผนรอบปลูกให้สอดคล้องกับช่วงที่ตลาดต้องการ การเลือกพันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ การเตรียมดินอย่างถูกต้อง การดูแลน้ำและปุ๋ยตามระยะ รวมถึงการป้องกันโรคและแมลงอย่างยั่งยืน จะช่วยให้พริกมีคุณภาพ ผลผลิตสูง และออกสู่ตลาดในช่วงราคาพุ่งสูงได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การคัดแยกผลพริก การทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และการใช้ช่องทางขายออนไลน์ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรอย่างแท้จริงครับ