จุดเริ่มต้นของการทำฟาร์มสาหร่ายผักกาดทะเล
คุณโอ วรรภา อ่อนจันทร์ ผู้จัดการ Family Farm ฟาร์มเพาะเลี้ยงสาหร่ายผักกาดทะเลแบบยั่งยืน เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการทำฟาร์มว่า ก่อนจะหันมาเลี้ยงสาหร่าย ทางฟาร์มเคยเพาะเลี้ยงกุ้ง หอย และสัตว์ทะเลชนิดต่าง ๆ มาก่อน
ต่อมาเมื่อกรมประมงนำสาหร่ายจากจังหวัดโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น เข้ามาทดลองเลี้ยงในประเทศไทย ทางฟาร์มจึงได้เข้าร่วมการอบรมและเริ่มเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นเป็นชนิดแรก ซึ่งปัจจุบันฟาร์มมีประสบการณ์ด้านการเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นมากว่า 11 ปี และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา Family Farm ได้เริ่มขยายการเพาะเลี้ยง สาหร่ายผักกาดทะเล ภายใต้การสนับสนุนของกรมประมง จนกลายเป็นหนึ่งใน 3 ฟาร์มต้นแบบแรกของประเทศ ที่ได้รับคัดเลือกให้ทดลองเลี้ยงสาหร่ายชนิดนี้อย่างเป็นทางการ
Family Farm ฟาร์มสาหร่ายพวงองุ่นคุณภาพ ส่งออกไกลระดับโลก!
ที่ Family Farm จะเน้นการเพาะเลี้ยง สาหร่ายพวงองุ่น เป็นหลัก โดยมีทั้งจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าภายในประเทศส่วนใหญ่คือ ร้านอาหารและโรงแรมชั้นนำ ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัย ซึ่งฟาร์มได้รับการรับรอง มาตรฐานออร์แกนิก พร้อมผ่านการตรวจสอบสารโลหะหนักอย่างเข้มงวด
ปัจจุบัน Family Farm มีพื้นที่เพาะเลี้ยงกว่า 81 ไร่ และสามารถส่งออกสาหร่ายพวงองุ่นได้ถึง 3 ตันต่อเดือน ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาเกษตรทางทะเลไทยสู่ตลาดโลก
“สาหร่ายผักกาดทะเล” สาหร่ายสายพันธุ์พิเศษจากญี่ปุ่น ที่เติบโตได้ในฟาร์มไทย!
สาหร่ายผักกาดทะเล เป็นสาหร่ายสายพันธุ์เฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสามารถพบได้ในทะเลน้ำลึกของไทย ลักษณะของสาหร่ายชนิดนี้จะคล้ายใบผักกาด จึงได้ชื่อว่า “สาหร่ายผักกาดทะเล” ที่ Family Farm ใช้ระบบเพาะเลี้ยงแบบเดียวกับการเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเลี้ยงในถังควบคุมระบบปิด และต้องใส่จุลินทรีย์จากน้ำหมักปลาทะเลเพื่อรักษาสมดุลของน้ำ แม้ฟาร์มจะได้เปรียบจากการมีถังเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นเดิม แต่สาหร่ายผักกาดทะเลกลับมีวิธีเลี้ยงที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเพราะไม่ชอบเกาะพื้น ต้องการแสงมาก และต้องควบคุม อุณหภูมิ แสง และออกซิเจนให้คงที่ ในธรรมชาติสาหร่ายชนิดนี้มักเกาะอยู่ตามหินหรือปะการัง แต่เมื่อเพาะเลี้ยงในฟาร์ม จะใช้วิธีเลี้ยงแบบล่องลอยตามแนวทางของกรมประมงเพื่อให้ได้ผลผลิตคุณภาพสูงและเติบโตอย่างยั่งยืน
สาหร่ายผักกาดทะเล โปรตีนสูงกว่าไข่ไก่ 3 เท่า! เมนูสุขภาพใหม่จากฟาร์มไทย
สาหร่ายผักกาดทะเล เป็นสาหร่ายที่มีลักษณะใบคล้าย “วากาเมะ” ของญี่ปุ่น เนื้อสัมผัสหนึบกรุบ และมีโปรตีนสูงกว่าไข่ไก่ถึง 3 เท่า ทำให้กลายเป็นวัตถุดิบเพื่อสุขภาพที่น่าสนใจมากในตอนนี้ สามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น ลวกทานกับสลัด ทำซุปมิโซะ ทอดเป็นเทมปุระ หรือแม้แต่ ขนมจีบจากสาหร่ายผักกาดทะเล ที่ฟาร์ม Family Farm ทดลองพัฒนา โดยไม่ใช้แป้งเลย! ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ ราคาขายปลีกปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละประมาณ 500 บาท และสามารถเก็บในอุณหภูมิปกติได้นานถึง 7 วัน โดยไม่ต้องแช่เย็น หากต้องการเก็บนานกว่านั้นเพียงนำไปผึ่งในที่ร่มให้แห้งก็จะเก็บได้นานถึง 1 เดือน และเมื่อต้องการรับประทาน เพียงนำมาลวกน้ำร้อน สาหร่ายก็จะ คืนตัวนุ่มอร่อยเหมือนเดิม
เทคนิคการเพาะเลี้ยง “สาหร่ายผักกาดทะเล” ฉบับฟาร์มยั่งยืน
ก่อนเริ่มเลี้ยงสาหร่ายผักกาดทะเล สิ่งสำคัญที่สุดคือ “การเตรียมน้ำ” น้ำที่ใช้ควรเป็น น้ำทะเลธรรมชาติ แต่หากต้องการเลี้ยงที่บ้านและไม่มีน้ำทะเล สามารถใช้น้ำทะเลเทียมได้ โดยควรเลือกน้ำทะเลเทียมสำหรับเลี้ยงสัตว์ทะเลโดยเฉพาะ เพราะมีแร่ธาตุและสารอาหารครบ ไม่ใช่แค่การละลายเกลือลงในน้ำทั่วไป
แสงที่เหมาะสมอยู่ที่ระดับ 10,000–20,000 ลักซ์ (lux) ออกซิเจนไม่จำเป็นต้องแรงมาก แต่ต้องเพียงพอให้สาหร่ายเคลื่อนไหวได้ อาหารเสริมที่ดีที่สุดคือ น้ำหมักปลาทะเลซึ่งเหมาะกับการเลี้ยงแบบออร์แกนิก แต่ถ้าเลี้ยงทั่วไป สามารถใช้ปุ๋ยยูเรีย หรือ น้ำหมักชนิดอื่น ๆ ที่มีธาตุอาหารหลัก N–P–K ครบถ้วน แทนได้
นอกจากนี้ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำทุกสัปดาห์ เพื่อให้น้ำสะอาดและมีคุณภาพ แต่ถ้าน้ำทะเลช่วงนั้นมีปัญหา เช่น ความเค็มหรืออุณหภูมิไม่คงที่ อาจลดเหลือเดือนละ 1 ครั้งได้ ระยะเวลาเลี้ยงหนึ่งรอบอยู่ที่ประมาณ 3 สัปดาห์ ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว และระหว่างการเลี้ยงยังสามารถทยอยเก็บผลผลิตได้เรื่อย ๆ เพราะสาหร่ายผักกาดทะเลมีคุณสมบัติพิเศเพียงฉีกใบก็สามารถแตกยอดใหม่ได้อีก ใบอ่อนที่งอกใหม่จะนุ่ม แต่เมื่อโตเต็มที่จะมีเนื้อสัมผัสหนึบกรุบ อร่อยและเก็บได้นาน
ปัญหาที่พบในการเพาะเลี้ยงสาหร่ายผักกาดทะเล
ในการเพาะเลี้ยงสาหร่ายผักกาดทะเล มักพบปัญหาสาหร่ายชนิดอื่นติดมาพร้อมกับน้ำ เมื่อนำไปเลี้ยงแล้วเจอแสงแดด สาหร่ายเหล่านี้จะเจริญเติบโตปนกับสาหร่ายผักกาดทะเล จึงจำเป็นต้องถ่ายน้ำบ่อย ๆ เพื่อลดการปนเปื้อน นอกจากนี้ยังพบสัตว์เกาะติด เช่น หนอนท่อ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อสาหร่าย แต่จะตายเมื่อนำไปแช่น้ำจืด ทางกรมประมงจึงแนะนำวิธีแก้ไขโดยคัดสาหร่ายก่อนจำหน่ายหรือแช่ในน้ำจืดไม่เกิน 5 นาที เพื่อให้หนอนท่อหลุดออก ซึ่งฟาร์มเลือกใช้วิธีแช่น้ำจืดควบคู่กับการพักสาหร่ายผักกาดทะเลในน้ำทะเลที่มีออกซิเจนประมาณ 1-2 วัน ก่อนนำไปจำหน่าย เพื่อให้สาหร่ายมีคุณภาพดีและปลอดภัยต่อผู้บริโภค
เพาะเลี้ยงสาหร่ายผักกาดทะเลง่าย ๆ ได้ผลผลิต 2-3 เท่า
ในการเลี้ยงสาหร่ายผักกาดทะเลในถังขนาด 500 ลิตร จะใส่สาหร่ายประมาณ ครึ่งกิโลกรัมต่อถัง เมื่อเพาะเลี้ยงครบรอบ สาหร่ายจะเจริญเติบโตจนมีน้ำหนักประมาณ 2-3 กิโลกรัมต่อถัง หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3 เท่า
ใน 1 รอบการเพาะเลี้ยง หากเลี้ยงประมาณ 10 ถัง จะได้สาหร่ายผักกาดทะเลรวมประมาณ 30 กิโลกรัม
กลุ่มลูกค้าที่สนใจซื้อนั้น ได้แก่ ร้านอาหาร โรงแรม ผู้รักสุขภาพ และบางส่วนเป็น โรงงานแปรรูป เพื่อนำไปทำเป็นอาหารเสริมหรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ
หากสนใจเทคนิคและสาหร่ายผักกาดทะเลสามารถติดต่อได้ที่
Facebook : ฟาร์มสาหร่ายพวงองุ่น Family Farm
โทร : 093 794 3000
………………………………………
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :
𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร
𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn
𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn
𝗦𝗵𝗼𝗽𝗲𝗲: shopee.co.th/kasetsanjorn
𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹: @kasetsanjorn
𝗕𝗹𝗼𝗰𝗸𝗱𝗶𝘁: blockdit.com/kasetsanjorn/
𝗧𝘄𝗶𝘁𝘁𝗲𝗿: twitter.com/kasetsanjorn/
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: kasetsanjorn.com