จุดเริ่มต้นของการปลูก “ภูพานเฮ” ในประเทศไทย


ดร.กฤษ กฤษดา จักรเสน คือผู้บุกเบิกการนำ “ภูพานเฮ” เข้ามาปลูกในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 โดยใช้เวลากว่า 10 ปีในการศึกษา วิจัย และพัฒนาอย่างจริงจัง “ภูพานเฮ” หรือที่รู้จักในภาษาลาตินอเมริกาในชื่อ PuPunha (ภูพุ้นเย) ถูกนำมาปลูกครั้งแรกที่จังหวัดสกลนคร และได้รับการปรับปรุงพันธุ์จนสามารถปลูกได้อย่างเหมาะสมในสภาพอากาศของไทย จากความพยายามของ ดร.กฤษ ทำให้ภูพานเฮไม่เพียงแค่ปลูกได้ในประเทศไทย แต่ยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด สร้างมูลค่าเพิ่มและเปิดโอกาสใหม่ในด้านเกษตรแปรรูปอย่างยั่งยืน
อุปสรรคในการเริ่มต้นปลูก “ภูพานเฮ”


ดร.กฤษ ได้นำเข้าเมล็ด “ภูพานเฮ” จากต่างประเทศ และศึกษาวิธีการปลูกอย่างจริงจัง จนสามารถพัฒนาและขยายพันธุ์ได้ในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ในช่วงเริ่มต้นต้องเผชิญกับหลายอุปสรรค โดยเฉพาะเรื่อง “ระบบราก” ของพืชชนิดนี้ จากความไม่รู้เกี่ยวกับระบบรากในตอนแรก ทำให้เลือกปลูกแบบยกร่อง ซึ่งไม่เหมาะสม เพราะภูพานเฮเป็นพืชที่มีระบบรากแผ่ การปลูกแบบยกร่องทำให้รากโผล่และตายในที่สุด
นอกจากนี้ การให้น้ำในช่วงแรกก็ประสบปัญหา โดยได้ทดลองใช้ระบบน้ำหยด แต่ไม่สามารถให้น้ำทั่วถึงระบบรากได้ จึงเปลี่ยนมาใช้ระบบ “สปริงเกอร์” ซึ่งให้ความชุ่มชื้นได้สม่ำเสมอในระดับความลึก 20-30 เซนติเมตร ซึ่งเหมาะกับความต้องการของภูพานเฮ ในด้านการให้ปุ๋ย พบว่าหากให้มากเกินไปจะทำให้ต้นตาย จึงควรให้ในปริมาณที่เหมาะสม และอีกจุดสำคัญคือ “แสงแดด” ต้นอ่อนของภูพานเฮไม่ชอบแสงจัด จึงควรพรางแสงในช่วงแรก แต่เมื่อโตเต็มวัยแล้วจะต้องการแดดเต็ม 100%
แนวทางการปลูก “ภูพานเฮ” เพื่อเก็บผลและยอด สร้างรายได้อย่างยั่งยืน
ต้นพันธุ์ “ภูพานเฮ” ที่พร้อมปลูกจะผ่านการคัดขนาดอย่างเหมาะสม ก่อนปลูกควรขุดหลุมไว้ล่วงหน้า และลงปลูกในช่วงที่ระบบรากเริ่มเดิน ซึ่งมักอยู่ในระยะประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้นให้โรยอินทรียวัตถุรอบโคนต้นเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ของดิน ระบบน้ำที่แนะนำคือ มินิสปริงเกอร์ วางในระยะห่างประมาณ 1 เมตรจากต้น เพื่อให้น้ำกระจายทั่วถึงบริเวณรากได้ดี
การปลูกเพื่อเก็บผลผลิต


ระยะห่างที่เหมาะสมสำหรับการปลูกเพื่อเก็บผล คือ 4×4, 5×5 หรือ 6×6 เมตร โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ซึ่งเหมาะกับการปลูกในเชิงเศรษฐกิจ หลังปลูกประมาณ 2-3 ปี ต้นจะเริ่มออก “จั่น” ในช่วงแรก หากพบจั่น ควรรีบตัดทิ้งเพื่อไม่ให้ต้นอ่อนเสียพลังงาน โดยจั่นนั้นสามารถนำไปประกอบอาหารได้ และยังมีสรรพคุณคล้ายโสม
เมื่อต้นพร้อมผสมเกสรและติดผล จะใช้เวลาอีกประมาณ 4 เดือนจึงสามารถเก็บเกี่ยวได้ โดยควรให้ต้นหนึ่งมีผลผลิตติดแค่ 10 จั่นต่อปี หากควบคุมให้อยู่ที่ 5 จั่น/ปี จะได้ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 25 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี
การปลูกเพื่อเก็บยอดอ่อน


สำหรับการปลูกเพื่อเก็บยอด ควรปลูกในระยะ 1×2 เมตร จะได้ประมาณ 800 ต้นต่อไร่ โดยใช้ระยะเวลา 1 ปีในการเริ่มเก็บยอดได้ต้นละ 1 ยอด เมื่อเก็บยอดจากต้นแม่แล้ว ภายใน 4-6 เดือน หน่อใหม่จากกอเดิมจะสามารถให้ยอดได้อีก และต้นแม่เองก็สามารถแตกยอดใหม่ได้เช่นกัน ยอดของภูพานเฮมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก โดยสามารถนำมาบริโภคแทนหน่อไม้หรือยอดมะพร้าว มีโปรตีนสูงถึง 22.47% และอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย
ต้นภูพานเฮที่ปลูกเพียงครั้งเดียว สามารถให้ยอดได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 15-20 ปี และให้ผลผลิตต่อเนื่องถึง 75 ปี จึงนับเป็นพืชเศรษฐกิจอายุยืนที่สามารถปลูกเพื่อสร้างรายได้ในระยะยาว และส่งต่อเป็น “พืชมรดก” สู่คนรุ่นต่อไปได้
การเพาะเมล็ดภูพานเฮ และแนวทางการปลูกเชิงพาณิชย์


การเพาะเมล็ด ภูพานเฮ จำเป็นต้องใช้วิธี “เพาะแบบควบแน่น” เนื่องจากเมล็ดมีความยากในการงอก และมีโอกาสเน่าเสียสูง เพราะต้องใช้ระยะเวลาฟักตัวในดินค่อนข้างนาน โดยเฉลี่ย ประมาณ 3-6 เดือน ทำให้มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียระหว่างกระบวนการเพาะ เมื่อเมล็ดงอกและต้นกล้าเริ่มเติบโต จะถูกย้ายไปอนุบาลต่อในโรงเรือน เพื่อควบคุมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมจนกว่าต้นกล้าจะแข็งแรงและมีขนาดพร้อมสำหรับการปลูกลงแปลงจริง
ภูพานเฮ พืชแห่งอนาคต สร้างมูลค่าได้หลากหลาย


เมื่อผลของภูพานเฮเจริญเติบโตจนถึงระยะที่พร้อมเก็บเกี่ยว ก็สามารถนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการนำไปอบกรอบ ทำข้าวเกรียบ แปรรูปเป็นแยม เส้นก๋วยเตี๋ยว หรือชา นอกจากนี้ยังสามารถแปรรูปเป็นผงภูพานเฮเพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกมากมาย อีกหนึ่งแนวทางที่น่าสนใจ คือการสกัดน้ำมันจากผลภูพานเฮ ซึ่งสามารถพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพหรือเครื่องสำอางได้เช่นกัน ด้วยคุณค่าทางโภชนาการและศักยภาพในการแปรรูปที่หลากหลาย ด้วยคุณสมบัติที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายด้าน และมีความเคลื่อนไหวในเชิงพัฒนาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ทำให้ภูพานเฮเริ่มได้รับความสนใจจากกลุ่มเกษตรกรที่มองหาอาชีพเสริมหรือพืชที่สามารถต่อยอดในอนาคตได้
หากสนใจเทคนิคการปลูกต้นภูพานเฮ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 081-545-0756 , 094-995-9954
………………………………………
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :
𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร
𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn
𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn
𝗦𝗵𝗼𝗽𝗲𝗲: shopee.co.th/kasetsanjorn
𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹: @kasetsanjorn
𝗕𝗹𝗼𝗰𝗸𝗱𝗶𝘁: blockdit.com/kasetsanjorn/
𝗧𝘄𝗶𝘁𝘁𝗲𝗿: twitter.com/kasetsanjorn/
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: kasetsanjorn.com







