จุดเริ่มต้นของจามาคารู และเรื่องราวของ “ไร่วันยังขำ”

“แม่ภา” สุภาวดี นิยมวงศ์ เจ้าของไร่วันยังขำ เล่าให้ฟังถึงที่มาของชื่อไร่ว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากชื่อของคุณย่า “ย่าวรรณ” ผู้มีเสียงหัวเราะและรอยยิ้มอยู่เสมอในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ แม่ภาในฐานะลูกสะใภ้ที่เข้ามาช่วยดูแลสวนของคุณย่า จึงตั้งชื่อไร่ว่า “วันยังขำ” เพื่อเป็นการระลึกถึงความสุขและเสียงหัวเราะของคุณย่า

ก่อนหน้าที่จะเริ่มปลูกกระบองเพชรพันธุ์จามาคารู แม่ภาเคยปลูกยางพาราบนพื้นที่ 36 ไร่ ซึ่งขณะนั้นต้นยางเริ่มให้ผลผลิตแล้ว แต่วันหนึ่งกลับเกิดพายุพัดถล่มทำให้ต้นยางล้มระเนระนาดไม่สามารถกรีดยางต่อได้ แม่ภาจึงตัดสินใจโค่นต้นยางทั้งหมด และหันมามองหาพืชทดแทน เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด และลำไย

ระหว่างรอผลไม้เติบโต มีช่องว่างระหว่างต้นอยู่บ้าง แม่ภาจึงนำต้นกระบองเพชรหลากหลายสายพันธุ์มาทดลองปลูกและหนึ่งในนั้นคือพันธุ์ “จามาคารู” และด้วยความน่ารัก แปลกตา และเลี้ยงง่าย ทำให้แม่ภาหลงรักกระบองเพชรชนิดนี้ และเริ่มขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นสวนจามาคารูเต็มพื้นที่ในปัจจุบัน

จากต้นเล็กสู่ผลหวาน เส้นทางความสำเร็จของ “จามาคารู” ในไร่วันยังขำ

หลังจากที่แม่ภาเริ่มปลูก “จามาคารู” ได้ประมาณ 1 ปี ต้นก็เริ่มให้ดอก และเมื่อเข้าสู่ปีที่ 2 ก็เริ่มมีผลขนาดเล็กติดต้น แต่ในตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่าผลของจามาคารูสามารถกินได้หรือไม่ จึงเริ่มหาข้อมูล ศึกษา และดูแลต้นไม้เหล่านี้อย่างใกล้ชิด พร้อมตั้งใจพัฒนาให้ติดผลอย่างจริงจัง

ในปีที่ 3 แม่ภาก็ประสบความสำเร็จ! จามาคารูให้ผลขนาดใหญ่ รสชาติหวานฉ่ำ มีเนื้อสัมผัสคล้ายแก้วมังกร แต่หวานละมุน ละลายในปาก ชวนให้ติดใจ จนตัดสินใจขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ความลับของความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจาก “ดิน” ที่ใช้ปลูก เพราะสวนของแม่ภาตั้งอยู่ในพื้นที่ดินภูเขาไฟ ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุ มีการระบายน้ำและอากาศที่ดี ช่วยให้จามาคารูเติบโตแข็งแรงและให้ผลผลิตคุณภาพเยี่ยม ซึ่งพื้นที่ลักษณะนี้โดยทั่วไปมักนิยมปลูกทุเรียน

แต่หากใครไม่มีดินภูเขาไฟ ก็ยังสามารถปลูกได้ เพียงเลือกพื้นที่ที่น้ำไม่ท่วมขังในฤดูฝน และมีการระบายน้ำที่ดี เพราะจามาคารูไม่ชอบน้ำขัง รากจะเน่าง่าย การปลูกในวัสดุโปร่งหรือดินเบา ๆ เช่น ดินผสมทรายหรือหินภูเขาไฟ ก็เป็นอีกทางเลือกที่ได้ผลดีเช่นกัน

เทคนิคปลูกจามาคารูให้โตไว แข็งแรง สไตล์ไร่วันยังขำ

เคล็ดลับสำคัญของการปลูกจามาคารูให้เติบโตได้ดีจาก “ไร่วันยังขำ” คือการเลือกใช้ดินภูเขาไฟ ซึ่งมีแร่ธาตุสูง ระบายอากาศและระบายน้ำได้ดีเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเจริญเติบโตของพืชตระกูลกระบองเพชร

ก่อนปลูกแม่ภาจะเตรียมแปลงให้สะอาดไม่มีวัชพืช เพื่อให้รากของต้นจามาคารูสามารถดูดซับอาหารได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องแย่งกับต้นหญ้า ซึ่งเป็นเรื่องที่แม่ภาให้ความสำคัญมาก ในเรื่องการบำรุง จามาคารูไม่ต้องการดูแลมาก แต่ก็ต้องได้รับสารอาหารอย่างสม่ำเสมอ โดยแม่ภาจะให้ปุ๋ยทุก 1-2 เดือน ใช้สูตรเสมอ เช่น 5-5-5 หรือ 15-15-15 เพื่อให้พืชได้รับธาตุอาหารหลักครบถ้วน ส่วนปัญหาโรคและแมลงแทบไม่มีในจามาคารู แต่ศัตรูพืชที่มักพบได้บ้างคือ หอย ตั๊กแตน และหนอน ที่เข้ามากัดกินผล ซึ่งสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อย และไม่กระทบต่อการเจริญเติบโตของต้นโดยรวม

ปลูกด้วยใจ เล่าอย่างเป็นธรรมชาติ เคล็ดลับทำคอนเทนต์จากแม่ภา

หนึ่งในเคล็ดลับของแม่ภาในการทำคอนเทนต์ให้คนสนใจ คือ “การเล่าเรื่องอย่างเป็นธรรมชาติ” ไม่ต้องปรุงแต่งมาก แค่เล่าว่าวันนี้เราทำอะไร เจออะไรบ้าง แล้วแบ่งปันเรื่องราวเหล่านั้นอย่างจริงใจ แม่ภาเน้นให้คอนเทนต์สะท้อนตัวตน ความเรียบง่าย และความสุขจากการใช้ชีวิตในไร่ เพราะเชื่อว่า ถ้าเราสนุกกับสิ่งที่ทำ คนดูก็จะสัมผัสได้ และยิ่งทำคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอ ความน่าสนใจก็จะค่อย ๆ สะสมขึ้นมาเอง โดยไม่จำเป็นต้องเน้นเรื่องรายได้เป็นหลัก

อีกหนึ่งแนวคิดที่แม่ภาให้ความสำคัญ คือการเลือกทำเกษตรในแบบที่เหมาะกับตัวเอง แม่ภาบอกว่าไม่ใช่คนที่ละเอียดมาก จึงเลือกปลูก “จามาคารู” เพราะเป็นพืชที่ดูแลง่าย ไม่จุกจิก และอยู่ได้แม้ไม่มีการดูแลตลอดเวลา ซึ่งช่วยให้แม่ภาทำเกษตรได้อย่างมีความสุข และยังมีเวลาแบ่งปันเรื่องราวผ่านโลกออนไลน์อีกด้วย

เริ่มต้นปลูกจามาคารูง่าย ๆ ทำได้ทั้งอาชีพเสริมและอาชีพหลัก

สำหรับมือใหม่ที่กำลังมองหาพืชทางเลือกที่ดูแลง่าย “จามาคารู” คือคำตอบที่น่าสนใจ ด้วยจุดเด่นคือปลูกง่าย ใช้น้ำน้อย ไม่ต้องใส่ปุ๋ยบ่อย ไม่มีโรคและแมลงรบกวนเหมือนพืชชนิดอื่น จามาคารูยังเป็นผลไม้ที่ยังมีคนปลูกไม่มากในประเทศไทย ทำให้ยังมีโอกาสทางการตลาดสูง และสามารถปลูกแซมในช่องว่างระหว่างพืชหลัก เช่น ทุเรียน มังคุด หรือลำไย ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะทำเป็นอาชีพเสริมหรือพัฒนาเป็นอาชีพหลัก ก็สามารถต่อยอดได้ในอนาคต เพราะปลูกง่าย ขยายพันธุ์ไม่ยาก หากอยากเริ่มต้น สามารถเริ่มจากการปลูกเพียง 1-2 ต้น แล้วขยายเพิ่มไปทีละน้อยจนกลายเป็นแปลงปลูกขนาดใหญ่ได้

หากสนใจเรียนรู้การเทคนิคดี ๆ ในการปลูกแคคตัสจากแม่ภา สามารถติดตามได้ที่

โทร : 065-924-7276

Facebook : ไร่วันยังขำ One young kham farm

Tiktok : one_young_kham_farm

………………………………………

เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง

รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร

ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :

𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร

𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn

𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn

𝗦𝗵𝗼𝗽𝗲𝗲: shopee.co.th/kasetsanjorn