เดือนกันยายน ถือเป็นจังหวะทองสำหรับเกษตรกร เพราะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการปลูกพืชที่โตไว เก็บเกี่ยวเร็ว และขายได้ราคาดี ช่วยเพิ่มรายได้ทันใจแบบไม่ต้องรอนาน ถ้ากำลังมองหาพืชที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย และเหมาะกับสภาพอากาศของเดือนกันยายน เกษตรสัญจรได้คัดสรร 9 พืชเศรษฐกิจที่น่าปลูกที่สุดในช่วงนี้ พร้อม เทคนิคการดูแลให้โตไว ผลผลิตคุณภาพ และเก็บเกี่ยวได้ทันตลาด
.
หากปลูกให้ถูกวิธี ไม่เพียงแค่ได้ผลผลิตคุณภาพ แต่ยังสร้างรายได้งามภายในระยะเวลาไม่นาน บางชนิดเก็บเกี่ยวได้ใน 30-45 วัน และบางชนิดสามารถปลูกสลับรอบได้อีก เพิ่มโอกาสทำเงินหลายรอบในปีเดียว อยากรู้ว่ามีพืชอะไรบ้างที่เหมาะปลูกในเดือนกันยายน? มาดู ลิสต์ 9 พืชแนะนำ พร้อมเคล็ดลับทำกำไรให้คุ้มค่า ในโพสต์นี้ได้เลยครับ
.
1. ผักบุ้งจีน
ปลูกง่าย ใช้ดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำดี รดน้ำเช้า-เย็น เก็บเกี่ยวได้ใน 25-30 วัน ปลูกในแปลงยกสูงหรือแบบไฮโดรโปนิกส์ช่วยลดโรคและแมลง ขายสดหรือส่งตลาดออนไลน์ ราคากิโลละ 25-40 บาท
.
2. ผักกาดหอม
เหมาะกับดินร่วนที่มีอินทรียวัตถุสูง ระวังอย่าให้ดินแห้ง ใช้สแลนกรองแสง 50% ช่วยป้องกันใบไหม้ ใช้เวลา 30-35 วันก็เก็บได้ เป็นผักที่ตลาดและร้านอาหารสุขภาพต้องการสูง
.
3. กวางตุ้งและคะน้า
ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักประมาณ 2-3 กิโลต่อหนึ่งตารางเมตร เก็บเกี่ยวได้ภายใน 35-40 วัน ตัดยอดขายเป็นชุดเพื่อเพิ่มรอบการเก็บ ทำให้สร้างรายได้ต่อเนื่อง ราคาขายสดกิโลละ 30-50 บาท
.
4. ถั่วฝักยาว
ต้องทำค้างไม้ไผ่หรือเสาตาข่ายให้เลื้อย รดน้ำสม่ำเสมอเพื่อให้ฝักยาวสวย ใช้เวลาประมาณ 45-50 วันในการเก็บเกี่ยว เป็นผักที่ตลาดและร้านอาหารต้องการสูง ขายกิโลละ 40-60 บาท
.
5. แตงกวา
ปลูกโดยทำค้างตาข่ายเพื่อลดปัญหาโรคจากดิน เก็บเกี่ยวใน 40-45 วัน ถ้าปลูกสลับพันธุ์หลากสีจะช่วยเพิ่มมูลค่า สามารถขายตลาดสดหรือทำสลัดเพิ่มรายได้
.
6. มะเขือเทศ
ใช้ดินร่วนซุยและระบายน้ำดี ปลูกแบบตัดยอดเพื่อควบคุมการเติบโตและลดปัญหาโรคใบไหม้ เก็บเกี่ยวได้ใน 50-60 วัน เป็นผักที่ร้านอาหารและตลาดต้องการตลอด ราคาขายดีต่อกิโลกรัม
.
7. ข้าวโพดหวาน
ปลูกในแถวห่างกัน 60-70 ซม. และใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 ให้เพียงพอ เก็บเกี่ยวได้ใน 60-70 วัน ตัดฝักเมื่อยังอ่อนและสด ขายตรงตลาดหรือส่งโรงงานแปรรูป ราคากิโลละ 20-35 บาท
.
กันยายนถือเป็นจังหวะสำคัญของเกษตรกร เพราะพืชโตไวที่ปลูกในช่วงนี้ ไม่เพียงช่วยให้เก็บเกี่ยวได้เร็ว สร้างรายได้ต่อรอบสูง แต่ยังทำให้หมุนเวียนปลูกสลับรอบเพื่อกระจายความเสี่ยง และใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า ยิ่งถ้าเสริมด้วยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือน้ำหมักชีวภาพ ก็ช่วยลดต้นทุนพร้อมเพิ่มคุณภาพผลผลิต ขายได้ราคาดี และอย่าลืมต่อยอดด้วยการขายออนไลน์หรือตลาดเกษตรอินทรีย์ จะช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรได้มากขึ้นครับ
………………………………………
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :
𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร
𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn
𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn
𝗦𝗵𝗼𝗽𝗲𝗲: shopee.co.th/kasetsanjorn
𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹: @kasetsanjorn
𝗕𝗹𝗼𝗰𝗸𝗱𝗶𝘁: blockdit.com/kasetsanjorn/
𝗧𝘄𝗶𝘁𝘁𝗲𝗿: twitter.com/kasetsanjorn/
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: kasetsanjorn.com