ก่อนมาทำสวนอโวคาโดทำอะไรมาก่อน ?
คุณแอร์ เคยทำงานเป็นกราฟฟิคดีไซน์ที่กรุงเทพ และมีลูกจึงหันมาทำเกษตรเพราะอยากมีเวลาอยู่กับลูก แต่เริ่มการทำเกษตรครั้งแรกด้วยการทำสวนน้อยหน่า แต่มีโรคใบหงิกระบาดที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ จึงตัดสินใจศึกษาการปลูกอะโวคาโด และเปลี่ยนสวนน้อยหน่าให้กลายเป็นสวนอะโวคาโด โดยลองซื้อต้นพันธุ์มาปลูกในพื้นที่ 2 ไร่ และปัจจุบันขยายเป็นพื้นที่ทั้งหมดเกือบ 10 ไร่ และปัจจุบันคุณจ้ำสามีได้เป็นประธานกลุ่มแปลงใหญ่ผู้ปลูกอะโวคาโด ของ อ.ปากช่อง
การเลือกพันธุ์และกระบวนการปลูกอะโวคาโดมีเทคนิคยังไงบ้าง ?
ในประเทศไทยจะแบ่งวิธีการปลูกอะโวคาโดเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ การเพาะด้วยเมล็ดและนำไปปลูก กับ การเพาะด้วยเมล็ดแล้วนำไปเปลี่ยนยอด
การเพาะด้วยเมล็ด จะมีการนำเมล็ดมาเพาะและนำไปลงแปลง แต่เมล็ดจะมีการกลายพันธุ์ ซึ่งต้นอะโวคาโดที่ปลูกจากเมล็ดจะได้พันธุ์ที่ไม่เหมือนต้นแม่ จะกลายเป็นสายพันธุ์ใหม่ และใช้ระยะเวลา 5-7 ปี กว่าจะได้ทานผล และโอกาสที่จะเจอสายพันธุ์ดีจะมีโอกาสแค่ 10 เปอร์เซนต์ และอีก 90 เปอร์เซนต์ จะเป็นต้นที่มีคุณภาพหลากหลายแตกต่างกันไป การปลูกอะโวคาโดสำหรับการค้าจึงไม่นิยมใช้วิธีการเพาะเมล็ดเพียงอย่างเดียว
ซึ่งอะโวคาโดที่เพาะเมล็ดหากต้องการให้ได้คุณภาพดี ต้องทำการนำมาเปลี่ยนยอด ไม่ว่าต้นตอจะเป็นอะโวคาโดสายพันธุ์อะไรก็ตาม ใบและลูกที่ออกและเก็บเกี่ยวผลผลิตได้จะเป็นสายพันธุ์อะโวคาโดที่นำมาเสียบยอดเสมอ การที่ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเสียบยอด ทำให้ได้ต้นอโวคาโดสายพันธุ์ที่ตรงกับต้นแม่ทุกประการ และเป็นพันธุ์ที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้วว่ามีคุณภาพ
ปัจจุบันอโวคาโดที่ปลูกในไทยมีสายพันธุ์อะไร และให้ผลผลิตในช่วงไหนบ้าง ?
อะโวคาโดสายพันธุ์ที่นิยมในไทยจะมี ปีเตอร์สัน บัคคาเนีย บูท7 แฮส พิงค์เคอร์ตัน ซึ่งเป็นสายพันธุ์อะโวคาโดที่มีการส่งเสริมมานานแล้ว โดยอะโวคาโดแต่ละสายพันธุ์จะออกดอกพร้อมกันในช่วงเดือน มกราคม-กุมภาพันธุ์ แต่จะเก็บผลผลิตไม่พร้อมกัน โดยพันธุ์ปีเตอร์สันจะออกผลผลิตก่อนสายพันธุ์อื่น ตามด้วยบัคคาเนียและบูท7 และสายพันธุ์แฮส ในช่วงเดือน ตุลาคม-ธันวาคม และ สายพันธุ์พิงค์เคอร์ตัน ในช่วงเดือน ธันวาคม-มกราคม หากมีการปลูกอะโวคาโด 4-5 สายพันธุ์ที่หลากหลายในแปลง จะทำให้สามารถทยอยเก็บผลผลิตได้ตลอดทั้งปี และผลผลิตไม่ล้นตลาด
เทคนิคการเลือกต้นพันธุ์อะโวคาโด
การเลือกต้นพันธุ์อะโวคาโดควรเลือกต้นที่แข็งแรง และเลือกซื้อจากฟาร์มที่ได้มาตรฐานและไว้วางใจได้ โดยคำนึงถึงสิ่งสำคัญ คือ ต้นต้องแข็งแรง ไม่มีโรค และพันธ์ุอะโวคาโดต้องตรงตามสายพันธุ์ที่ต้องการ เพราะต้นอะโวคาต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะออกผลผลิต หากปลูกไปแล้วไม่ได้สายพันธุ์ตามต้องการอาจจะทำให้เสียเวลาไปหลายปี
การเตรียมแปลงปลูกอะโวคาโด
ระยะสำหรับการปลูกอะโวคาโด หากมีพื้นที่น้อย ประมาณ 2-3 ไร่ ควรเลือกปลูกในระยะชิด คือ 6×6 แต่ถ้ามีพื้นที่เยอะประมาณ 30-40 ไร่ขึ้นไป จะแนะนำให้ปลูกในระยะ 8×8 และระยะผสมที่แนะนำให้ปลูกคือ 6×8 เมื่อทำการวางระยะปลูกเสร็จแล้วจะทำการตีผังและทำการยกร่อง โดยทำเป็นร่องแห้งเป็นลูกฟูกโดยทำเป็นร่องยาวตามลักษณะของพื้นที่ที่เหมาะสมและตามทิศที่ขวางแสงแดด คือ ทิศเหนืและทิศใต้ และจะเริ่มการทำระบบน้ำโดยใช้เป็นระบบสปริงเกอร์หรือมินิสปริงเกอร์ และควรมีการนำดินไปตรวจก่อนปลูกเพื่อดูค่า ph ค่าความเค็มของน้ำ ค่าปุ๋ยNPKตกค้าง ค่าความเค็มของดิน และค่าของอินทรีย์วัตถุในดิน เมื่อเช็คแล้วพบว่ามีปัญหาตรงไหนจะได้ปรับให้ให้พร้อมสำหรับการปลูกอะโวคาโด
ต้นอะโวคาโดเหมาะกับดินแบบไหน ?
ต้นอะโวคาโดจะชอบดินที่เป็นกรด-กลาง โดยอยู่ในค่า PH 5.5-6.5 และดินที่ระบายน้ำได้ดี สามารถปลูกในดินทรายหรือดินร่วนก็ได้ แต่จะไม่ชอบดินเหนียว หากปลูกในแปลงที่เป็นดินเหนียวควรจะมีการปรับปรุงดินก่อน แต่ถ้าเป็นดินร่วนหรือดินทรายจะสามารถปลูกได้ หลังจากที่เช็คความพร้อมของดิน ยกร่อง และเตรียมระบบน้ำเรียบร้อยแล้ว จะถึงขั้นตอนการปรุงดิน โดยจะเติมอินทรีย์วัตถุลงไป เช่น มูลวัว มูลหมู มูลไก่ หรือขี้เค้กอ้อย กากมัน โดยจะใส่ส่วนผสมลงไปในหลุม
วิธีการขุดหลุมสำหรับปลูกอะโวคาโด
การขุดหลุมจะแนะนำให้ขุดหลุมลึก เพราะหากหลุมยิ่งลึกจะยิ่งทำให้ต้นอะโวคาโดเติบโตได้ไว ตัวอย่างเช่น ที่ฟาร์ม จะขุดหลุมลึก 1×1 เมตร และผสมอินทรีย์วัตถุและคลุกเคล้าดิน จากนั้นจึงกลบดินลงไป และปล่อยไว้ประมาณ 1 เดือน รอให้จุลินทรีย์ในดินย่อยสลายจนพร้อมใช้งาน และค่อยขุดหลุมปลูกอีกครั้งในความลึกขนาดเท่าถุงดำและวางต้นลงไป ซึ่งที่ฟาร์มใช้วิธีนี้และพบว่าต้นอะโวคาโดที่ปลูกรอดแทบทุกต้น และหลังจากนั้นคอยรดน้ำวันเว้นวันรือทุกวันในช่วงเดือนแรก จนครบ 2 เดือน ต้นอะโวคาโดจะเริ่มแตกยอดจึงเริ่มใส่ปุ๋ยบำรุง
ปุ๋ยที่แนะนำสำหรับต้นอะโวคาโด
ในช่วงแรกจะแนะนำให้ใช้ปุ๋ยเคมีหรือสามารถใช้ปุ๋ยอินทรีย์ผสมเคมี โดยใช้ปุ๋ยที่มีตัวหน้าสูง วิธีการใส่ปุ๋ยจะใส่ทีละน้อย ๆ เดือนละ 1 ครั้ง โดยต้นอะโวคาโดที่มีอายุ 2 เดือน จะใส่ปุ๋ยประมาณ 1 ช้อนแกง โดยใส่รอบ ๆ โคนและขยายตามทรงพุ่มไปเรื่อย ๆ
การดูแลต้นอะโวคาโดหลังจากติดดอก
ในช่วง1-2 ปีแรก ที่ฟาร์มจะตรวจแปลงอยู่เมอ หากไม่มีการรบกวนของแมลงและเชื้อราจะไม่มีการใช้สารเคมีเพราะต้องการใช้ในปริมาณที่น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้สะสมตกค้าง และในช่วง1-2 ปีแรกหากมีการติดดอกและติดลูกจะไม่ให้เอาไว้ จะรอจนกว่าปีที่ 3 จึงจะเริ่มตัดแต่งกิ่งเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการไว้ลูก โดยจะตัดกิ่งภาระและกิ่งกระโดงออกและเริ่มใส่ปุ๋ยตัวหลังสูงเพื่อทำดอก และให้ต้นอะโวคาโดสะสมอาหาร จนถึงเดือน มกราคม จะเริ่มออกดอกและทยอยบานเต็มต้นในช่วงระยะเวลา 1 เดือนครึ่ง และเริ่มติดผลในเดือน กุมภาพันธุ์ – มีนาคม โดยจะเริ่มนับวันที่ดอกบาน เช่น พันธุ์ปีเตอร์สัน จะนับวันที่ดอกบานจนถึงวันที่เก็บผลผลิตเป็นระยะเวลา 180 วัน
หลังจากเก็บผลผลิตมีการดูแลต้นอะโวคาโดยังไงบ้าง ?
หลังจากเก็บผลผลิตต้นอะโวคาโดเรียบร้อยแล้วจะมีการตัดแต่งกิ่ง โดยตัดแต่งกิ่งตาย ตัดแต่งผลที่ตายและทำความสะอาดโคนต้นให้สะอาด และเริ่มฟื้นฟูรากเพื่อให้ต้นสะสมอาหารให้พร้อมสำหรับการผลิตผลอะโวคาโดในฤดูกาลต่อไป
การปลูกอะโวคาโดควรปลูกกี่ไร่ถึงจะสามารถสร้างรายได้ประจำ
การปลูกอะโวคาโดจะแนะนำให้ปลูกประมาณ 20 ไร่ ขึ้นไป ถึงจะสามารถสร้างรายได้ให้เกินกว่าต้นทุน โดยต้นทุนการดูแลจะอยู่ที่ประมาณต้นละ 1,500-2,000 บาท/ต้น/ปี ส่วนรายได้ต่อต้นจะอยู่ที่ 40 เปอร์เซนต์ จะอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท/ต้น/ปี ซึ่งสามารถแปรผันด้วยสภาพอากาศและวิธีการดูแลของแต่ละสวน แต่ถ้าดูแลดีและบำรุงดีผลผลิตสามารถเพิ่มได้มากขึ้นทำให้ได้กำไรเพิ่มขึ้นตามมา ซึ่งอะโวคาโดผลใหญ่จะอร่อยกว่าอะโวคาโดผลเล็ก หากเกษตรกรสามารถปลูกอะโวคาโดผลใหญ่ได้จะสามารถจำหน่ายได้ราคาดีกว่า
ปัจุบันตลาดอโวคาโดเป็นยังไงบ้าง ?
ในปัจจุบันประเทศไทยมีการนำเข้าอะโวคาโดจากต่างประเทศเข้ามาเป็นจำนวนมาก และคนไทยเริ่มมีแนวโน้มหันมารักสุขภาพมากขึ้น การทำอโวคาโดแบบพรีเมี่ยมจึงเริ่มเป็นที่สนใจของผู้บริโภค โดยเฉพาะอโวคาโดปากช่องของ Grande Farm ที่สามารถแก้ปัญหาการซื้ออะโวคาโดของลูกค้าได้ โดนที่ Grande Farm จะเน้นคุณภาพ รสชาติอร่อย แก่จัด และสามารถทานได้ทุกลูก
อะโวคาโดพันธุ์วาเลนไทน์ อะโวคาโดรูปหัวใจ
อะโวคาโดพันธุ์วาเลนไทน์เป็นอะโวคาโดพันธุ์พื้นเมืองของปากช่อง ซึ่งปัจจุบันมีการขยายพันธุ์ไปแล้ว 40-50 ต้น และต้นแม่มีอายุมากกว่า 30 ปี ซึ่งรสชาติมีความนิ่งแล้ว และทาง Grande Farm ได้เข้าไปทดสอบคุณภาพ จนนำมาพัฒนาเป็นอโวคาโดพรีเมี่ยม ซึ่งรสชาติอร่อยและมีลักษณะที่โดดเด่น เป็นรูปหัวใจ
หากปลูกอะโวคาโดแล้วไม่มีผลควรทำยังไง ?
อะโวคาโดที่ปลูกแล้วไม่มีผล ส่วนมากจะเกิดจากการเพาะเมล็ด เพราะต้องใช้เวลาในการติดผลประมาณ 5-7 ปี เป็นอย่างน้อย หรือ หากขาดการใส่ปุ๋ยบำรุง จะทำให้ไม่ติดลูก ควรมีการใส่ปุ๋ยบำรุงเป็นประจำ และคอยตัดแต่งกิ่งให้ใบไม่ดกเกินไป หากปลูกแล้วไม่มีผล สามารถใช้วิธีเปลี่ยนยอด โดยนำกิ่งพันธุ์ของต้นที่ติดลูกแล้วไปเปลี่ยน ด้วยวิธีเสียบยอด เสียบข้าง หรือติดตา จะช่วยย่นระยะเวลาในการติดลูกให้เร็วขึ้นได้
หากสนใจเรียนรู้การปลูกอะโวคาโดจาก Grande Farm สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 063-765-9045
Facebook : Grande Farm
Instagram : Grande Farm
Website : www.grandefarmth.com
………………………………………
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :
𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร
𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn
𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn
𝗦𝗵𝗼𝗽𝗲𝗲: shopee.co.th/kasetsanjorn
𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹: @kasetsanjorn
𝗕𝗹𝗼𝗰𝗸𝗱𝗶𝘁: blockdit.com/kasetsanjorn/
𝗧𝘄𝗶𝘁𝘁𝗲𝗿: twitter.com/kasetsanjorn/
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: kasetsanjorn.com