จุดเริ่มต้นในการเลี้ยงด้วงสาคู
ก่อนเริ่มต้นมาเลี้ยงด้วงสาคู พี่มดทำงานประจำและ เมื่อเจอสถานการณ์โควิดในรอบที่ 2 พี่มดจึงได้เริ่มทดลองเลี้ยงด้วงสาคูและมีผลตอบรับที่ดีจึงเลี้ยงมาเรื่อย ๆ
ก่อนที่จะเลือกเลี้ยงด้วงสาคู พี่มดเริ่มต้นจากทำการเพาะปลูกแต่มีปัญหาเรื่องน้ำ ดิน และอากาศ จึงเปลี่ยนจากการเพาะปลูกมาเป็นเพาะเลี้ยง เช่น เลี้ยงกบ เลี้ยงปลา จนมาเจอการเลี้ยงด้วงสาคูเป็นการเลี้ยงที่ง่ายที่สุดและอยู่ในร่ม
พี่มดเคยทำงานเป็นผู้รับเหมาก่อนที่ผันตัวมาเป็นเกษตรกร แต่ประสบปัญหาโควิดและมีคนงานค่อนข้างเยอะ จึงได้ไปศึกษาหาความรู้ในการเลี้ยงด้วงสาคูจากการลองผิดลองถูก โดยเริ่มต้นเลี้ยงด้วงสาคูแค่ 3 กะละมังเป็นรายได้เสริมควบคู่ไปกับงานประจำ
ด้วงสาคูเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย มีรอบอายุการเก็บเกี่่ยวที่น้อย และมีน้ำหนักค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับราคา เมื่อมาเลี้ยงด้วงสาคูอย่างจริงจังจึงสามารถสร้างรายได้ประจำ
ตอนเริ่มต้นเลี้ยงด้วงสาคูเป็นอย่างไรบ้าง ?
ก่อนที่จะตัดสินใจเลี้ยงด้วงสาคู พี่มดทำอาชีพเกษตรและค่อนข้างกลัวหนอนจึงไม่ค่อยกล้าจับด้วงสาคูเท่าไหร่ และคาดหวังว่าจะขายเฉพาะพ่อแม่พันธุ์ แต่ในขั้นตอนการเลี้ยงต้องมีการเพาะเลี้ยงด้วงสาคูด้วยจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ค่อนข้างยาก
ปัญหาในการเริ่มต้นเลี้ยงด้วงสาคู
ปัญที่ที่พี่มดเจอคือ ไม่มีแหล่งวัตถุดิบ เพราะช่วงแรกพี่มดทำงานประจำจึงไม่มีเวลาหา จึงซื้ออาหารสำเร็จมาเลี้ยงแต่ต้นทุนค่อนข้างสูง ต้องได้ผลผลิตเยอะจริง ๆ จึงจะคุ้มกับต้นทุนหากเลี้ยงน้อยจะไม่คุ้มค่าพี่มดจึงเริ่มขยายพันธุ์เรื่อย ๆ ทำให้ต้นทุนในการเลี้ยงด้วงสาคูถูกลง
ช่วงเริ่มต้นเลี้ยงลงทุนเท่าไหร่ ?
พี่มดซื้อด้วงสาคูชุดเพาะเลี้ยงชุดละ 400 บาท โดยลงทุนครั้งแรกแค่ 1,000 กว่าบาท และซื้ออาหารสำเร็จแบบเติมมา อาหาร 1 ชุดจะเติมได้ 1 กะละมัง จะอยู่ได้ 15 วัน เมื่อใกล้ครบรอบต้องสั่งอาหารมาเตรียมไว้ ซึ่งช่วงนั้นพี่มดจะทำงานประจำในช่วงกลางวันและมาเลี้ยงด้วงสาคูในช่วงกลางคืนหลังจากเลิกงาน
ปัจจุบันเลี้ยงด้วงสาคูเป็นอย่างไรบ้าง ?
ตอนนี้พี่มดขยายพันธุ์ด้วงสาคูขึ้นมาเรื่อย ๆ จาก 3 กะละมังเป็น 6,000 กว่ากะละมัง โดยพี่มดดูแลคนเดียวจะมีจ้างคนงานเพิ่มในช่วงที่เก็บผลผลิตเท่านั้น ด้วงสาคูระยะเวลาการเพาะเลี้ยงจนถึงเก็บขายจะใช้เวลาประมาณ 35 วัน ซึ่งช่วงเพาะเลี้ยงไม่จำเป็นต้องใช้แรงงานคน แค่คอยผสมอาหารให้พ่อแม่พันธุ์ เมื่อครบ 20 วันมาคอยเติมอาหาร และรอจนครบระยะเวลา 35 วัน จึงหาคนงานชั่วคราวหรือคนงานเหมามาช่วยเก็บผลผลิต พี่มดมองว่าการเลี้ยงด้วงสาคู สามารถขายได้เรื่อย ๆ ในราคากิโลกรัมละประมาณ 250 บาท จึงมองว่าอาชีพการเลี้ยงด้วงสาคูเป็นอาชีพที่ง่าย ขายได้ราคาดีและราคาคงที่
ความต้องการของตลาดเป็นอย่างไร ?
ด้วงสาคูเป็นที่ต้องการของตลาดจำนวนมาก ตลาดมีความกว้างและกำลังไปได้ดีและเป็นที่จับตามอง ปัจจุบันมีโรงงานรับซื้อและนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งตลาดแปรรูปด้วงสาคูกำลังไปได้ดีเนื่องจากยังไม่ค่อยมีคนทำจึงมีคู่แข่งไม่มาก
วิธีเลี้ยงด้วงสาคูเป็นอย่างไร ?
การเลี้ยงด้วงสาคูเลี้ยงง่าย แค่ผสมอาหารและปล่อยพ่อแม่พันธุ์ลงไป หลังจากนั้นรอเวลาเก็บ เมื่อครบ 20 วันอาหารเริ่มยุบให้เติมอาหารลงไปใหม่ โดยระยะเวลาการเลี้ยงอยู่ที่ 35 วัน สามารถเก็บขายได้แล้ว โดพี่มดจำหน่ายด้วงสดราคาหน้าฟาร์มกิโลกรัมละ 250 บาท และจำหน่ายด้วงแช่แข็งราคากิโลกรัมละ 300 บาท สามารถจำหน่ายได้ทั่วไปทย
พ่อแม่พันธุ์ด้วงสาคูเป็นอย่างไร ?
ที่ฟาร์มจะแยกพ่อแม่พันธุ์ตัวผู้และตัวเมียออกจากกัน วงจรชีวิตจะมีอายุ 45 วัน สามารถใช้งานได้ 3 – 4 รอบ หรือใช้จนกว่าจะหมดช่วงอายุ วิธีการแยกเพศพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ด้วงสาคูตัวเมียจะมีลักษณะงวงที่ยาวกว่าตัวผู้
ระยะเวลาในการทำพ่อแม่พันธุ์
หากต้องการเลี้ยงด้วงสาคูเป็นพ่อแม่พันธุ์ เมื่อครบ 35 วันอาหารหมด ให้ขุนต่อไปอีก 15 วัน จะกลายเป็นด้วง 45 วันที่พร้อมเข้าฝักทำพ่อแม่พันธุ์
วิธีการผสมอาหารและปล่อยพ่อแม่พันธุ์ด้วงสาคู
1.ปกติพี่มดจะใช้มันสำปะหลังเป็นอาหารแต่เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่มันหมดฤดูกาล จึงได้สั่งสาคูจากภาคใต้มาเป็นอาหารด้วงแทน ซึ่งสามารถใช้อาหารประเภทแป้งแทนได้ทุกชนิด เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง มัน
.
2.ใส่อาหารวัวชนิดผงผสมเนื่องจากมีต้นทุนที่ค่อนข้างถูกหากไม่มีสามารถใช้อาหารสัตว์ทุกชนิดแทนได้ โดยใช้ปริมาณ 1 ขีด ต่อ1 กะละมัง
.
3.ใส่น้ำโดยใช้เป็นน้ำหมักซึ่งเป็นจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงผสมกับกากน้ำตาลผสมน้ำ โดยใช้น้ำหมัก 1 ช้อน กากน้ำตาล 1 ช้อน ต่อ 1 กะละมัง เพื่อรักษาสภาพของอาหารและช่วยลดกลิ่น จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้หากไม่มีสามารถใช้น้ำเปล่าได้
.
4.นำเปลือกมะพร้าวสดหรือแห้งมาแปะหน้าอาหารด้านบนเพื่อเป็นที่หลบซ่อนของพ่อแม่พันธุ์ในการวางไข่ โดยใส่ประมาณ 5 – 6 ชิ้นต่อ 1 กะละมัง
.
5.นำพ่อแม่พันธุ์มาใส่ในกะละมัง โดยใช้พ่อแม่พันธุ์ตัวผู้และตัวเมีย 5 คู่ และใช้ตระแกรงปิดทับด้านบนซ้อนกัน รอจนครบ 20 วัน จึงเข้าไปเติมอาหารอีกรอบ
วิธีการเติมอาหารเมื่อครบ 20 วัน
เมื่อครบ 20 วัน จะมีการเก็บพ่อแม่พันธุ์ออกให้เหลือแต่ตัวลูก และให้เติมอาหารสูตรเดิมลงไปโดยเทน้ำในกะละมังออกก่อน และเทกะละมังเก่าลงไปในกะละมังใหม่ หลังจากนั้นรอไปอีก 15 วันจะสามารถเก็บด้วงสาคูไปจำหน่ายได้ ซึ่งด้วงสาคู 1 กะละมัง สามารถเก็บได้ประมาณ 1 กิโลกว่า
พื้นที่ในการเลี้ยงด้วงสาคู
การเลี้ยงด้วงสาคูใช้พื้นที่ไม่มาก สามารถวางซ้อนกัน 5 กะละมัง ซึ่งต้นทุนในการเลี้ยงด้วงสาคูของพี่มดไม่ได้แพงมาก ราคากากมันอยู่ที่ตันละประมาณ 300 บาท ใน 1 กะละมังจะใช้มัน 2 กิโลกรัม เฉลี่ยกะละมังละ 1 บาท ค่าหัวอาหารกิโลกรัมละ 1 บาท และมีค่ากากน้ำตาลกับจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงซึ่งจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงสามารถทำเองได้
ศัตรูของด้วงสาคูมีอะไรบ้าง
มดจะเป็นศัตรูของด้วงสาคูหากเป็นลูกด้วงตัวเล็กและอาหารแห้งมดจะขึ้น แต่เมื่อเป็นด้วงสาคูตัวโตแล้วมดจะไม่สามารถมากินได้
หลังจากเลี้ยงด้วงสาคูชีวิตเปลี่ยนไปยังไงบ้าง ?
ปัจจุบันพี่มดมีเวลามากขึ้น ไม่ต้องเดินทางบ่อยและป็นนายตัวเองเนื่องจากการเลี้ยงด้วงสาคูเป็นการเกษตรที่อยู่กับที่ ตอนนี้พี่มดผันตัวมาแปรรูปด้วงสาคูเองจากเดิมที่ขายด้วงสาคูให้โรงงาน โดยมีสินค้าหลายตัว เช่น ไส้กรอกด้วงมะพร้าว บราวนี่ดวงมะพร้าว คุกกี้ด้วงมะพร้าว น้ำพริกเผาน้ำพริกปลาย่างจากด้วงมะพร้าว ด้วงมะพร้าวกระป๋อง และผลิตภัณฑ์ที่กำลังจะออกสู่ตลาดคือ น้ำปลาร้าจากด้วงมะพร้าว
ประโยชน์ของด้วงสาคูมีอะไรบ้าง ?
ด้วงสาคูมีประโยชน์เยอะมาก เทียบเท่ากับอาหารประเภทเนื้อทั่ว ๆ ไป แต่มีโปรตีนที่ค่อนข้างสูง เป็นอาหารเพื่อสุขภาพเนื่องจากมีน้ำตาลต่ำ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล มีทั้งโปรตีน แร่ธาตุ กรดอะมิโนที่จำเป็นและกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ค่อนข้างสูง
ช่วงแรกหากลุ่มลูกค้าจากที่ไหน ?
พี่มดเริ่มต้นจากการนำด้วงสาคูไปขายที่ตลาดนัดจนเป็นที่รู้จัก เนื่องจากหายากและไม่มีในตลาด โดยการนำด้วงสดไปขายเป็นกิโล ที่ราคากิโลกรัมละ 250 บาท และปรับการขายเป็นปริมาณที่น้อยลงเป็นราคาถุงละ 50 บาท หรือ 100 บาท ทำให้ขายง่ายและขายออกได้ดีกว่าขายเป็นกิโล
คนที่เข้ามาซื้อเริ่มมีความสงสัยว่าไปหามาจากที่ไหน พี่มดบอกว่าเลี้ยงเองจึงมีคนสนใจและเข้ามาขอดูงานที่บ้านว่าเลี้ยงยังไง กินอะไร พี่มดจึงได้ต่อยอดจากคนที่สนใจด้วยการขายพ่อแม่พันธุ์ไปเลี้ยง
ด้วงสาคูเลี้ยงแล้วไปขายที่ไหนได้บ้าง ?
ปัจจุบันที่ฟาร์มพี่มดจะรับซื้อด้วงสด สามารถสอบถามเข้าไปขายที่ฟาร์มได้ หากใครที่ไม่มีตลาดต้องรู้จักสินค้าของตัวเองก่อนว่าด้วงมีกลิ่นสาบมั้ย เมื่อไม่มีปัญหาอะไรมทุกที่สามารถรับซื้อได้หมด หากจะทำขายส่งโรงงานพี่มดสามารถให้คำแนะนำได้
ที่ฟาร์มพี่มดจะเลี้ยงด้วงสาคูแบบครบวงจรแมลง มีการจำหน่ายพ่อแม่พันธุ์ที่คู่ละ 10 บาท และราคาส่ง 100 คู่ขึ้นไปที่คู่ละ 8 บาท
การเลี้ยงด้วงสาคูสามารถเป็นอาชีพเสริมได้มั้ย ?
ด้วงสาคูสามารถเลี้ยงเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมได้ดี ซึ่งใช้เวลาในการดูแลไม่มากแค่นำด้วงใส่ในกะละมังและคอยเติมอาหารเมื่อถึงระยะเวลา ใช้พื้นที่ไม่มากสามารถเลี้ยงแบบปล่อยได้ หากต้องการเลี้ยงแบบจริงจังควรมองหาแหล่งวัตถุดิบ ซึ่งพี่มดใช้มันสำปะหลังเป็นอาหารราคาเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 1.5 – 3 บาท
หากสนใจเลี้ยงด้วงสาคูควรเริ่มต้นอย่างไร ?
หากสนใจเลี้ยงให้เริ่มจากน้อย ๆ ประมาณ 5 – 10 กะละมังก่อน พ่อแม่พันธุ์ ประมาณ 50 คู่ โดยหาอาหารเองเฉลี่ยลงทุนไม่ถึง 1,000 บาท
วันแรกถึงวันนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง ?
พี่มดรู้สึกดีใจและภูมิใจที่มีสินค้าเป็นของตัวเอง การทำด้วงสาคูจึงไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยมากเท่าไหร่ นอกจากนั้นพี่มดยังมีเป้าหมายที่จะต่อยอดด้วงสาคูไปได้อีก ปัจจุบันที่ฟาร์มพี่มดเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ หากสนใจสามารถโทรไปสอบถาม ทักเพจเฟสบุคหรือทักไลน์เข้ามาก่อนได้ โดยสามารถติดต่อได้ที่เพจเฟสบุคบ้านด้วงมดตะนอย หรือโทรหมายเลข 080-924-1726
………………………………………
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :
𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร
𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹: @kasetsanjorn
𝗕𝗹𝗼𝗰𝗸𝗱𝗶𝘁: blockdit.com/kasetsanjorn/
𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn
𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn
𝗧𝘄𝗶𝘁𝘁𝗲𝗿: twitter.com/kasetsanjorn/
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: kasetsanjorn.com