พี่ปา ไชยปัญหา เจ้าของสวนฮักสกล เกษตรกรอารมณ์ดี ที่มีแนวทางการทำเกษตรด้วยแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง โดยพี่ปาได้ทำไร่อรหันต์ที่โคราชมาแล้วกว่า 12 ปี และได้ตัดสินใจย้ายกลับมาบ้านเกิดที่ จ.สกลนคร และเริ่มต้นทำสวนฮักสกล
ก่อนจะทำเกษตรทำอะไรมาก่อน ?
พี่ปาจบปริญญาตรีสื่อสารมวลชน และเริ่มทำงานสื่อสารมวลชนจนเปลี่ยนไปทำงานที่โรงงานอุตสาหกรรมประมาณ 23 ปี และตัดสินใจลาออกในปีที่ 24 โดย10 ปีสุดท้ายก่อนที่จะตัดสินใจลาออกได้เริ่มต้นทำไร่อรหันต์ควบคู่ไปด้วย และเริ่มเปิดไร่อรหันต์เป็นศูนย์เรียนรู้อย่างเป็นทางการ จนเมื่อปลายปีที่แล้วได้เริ่มกลับมาทำเกษตรที่บ้าน ที่ จ.สกลนคร และเปลี่ยนชื่อจากไร่อรหันต์เป็นสวนฮักสกล
ที่สวนฮักสกลมีความแตกต่างจากไร่อรหันต์ยังไงบ้าง ?
ที่ไร่อรหันต์จะมีพื้นที่รวมทั้งหมด 7 ไร่ แต่ที่ไร่ฮักสกลจะแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน โดยส่วนแรกที่เริ่มทำคือ สวนฮักสกล เริ่มสร้างบ้าน และทำพื้นที่อบรม และปลูกพืชผสมผสานในพื้นที่ 4 ไร่ มีการทำโครงการที่ 2 อีก 4 ไร่ รวมทั้งยังมีการวางแผนทำโครงการใหญ่อีก 50 ไร่ ในรูปแบบของสวนป่านาโคก ซึ่งจะเข้าไปเติมเต็มป่าให้สมบูรณ์ ปฏิรูปการทำนาในพื้นที่ให้เป็นนาปลอดสารพิษ และทำสวนเพิ่มเติมจากพื้นที่เดิม
คนที่ทำงานประจำและอยากเปลี่ยนมาทำเกษตรมีเทคนิคยังไงให้ประสบความสำเร็จ
การทำเกษตรควรทำควบคู่ไปกับงานประจำก่อน เพราะการทำเกษตรต้องเริ่มต้นจากศูนย์ เงินก้อนที่ได้มาอาจจะหายไปกับการทำเกษตร และเมื่อฝนแล้งหรือแมลงบุก เงินที่ลงทุนก็จะหายไปทั้งหมด การทำเกษตรอันดับแรกควรเช็คตัวเองก่อนว่ามี 3 การรึยัง
- ต้องมีอุดมการณ์ ต้องมีความเชื่อมั่นว่าการทำเกษตรต้องอยู่ได้ ให้เลี้ยงชีพได้ และต้องอยู่รอด
- ต้องมีวิชาการ ต้องรู้หลักการลดต้นทุน การเพิ่มผลผลิต ระยะไหนพืชต้องการธาตุอาหารแบบไหน ให้ถูกที่ถูกเวลา
- ต้องมีประสบการณ์ คือการได้ลงมือทำให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ ควรเริ่มต้นฝึกทำก่อนและค่อยๆ เรียนรู้
การปลูกพืชแบ่งเป็นเทคนิคต่างๆ ดังนี้
- ปลูกเพื่อเรียนรู้ เช่น การปลูกมะละกอ หากปลูกมะละกอตั้งแต่ปลูกจนถึงออกดอกใช้เวลาทั้งหมด 4 เดือน ออกดอกถึงก็บดิบ ใช้เวลา 3 เดือน เก็บดิบถึงเก็บสุกใช้เวลา 3 เดือน และมะละกอมีทั้งต้นตัวผู้ ตัวเมีย และต้นกระเทย กว่าจะรู้ว่ามะละกอจะเป็นเพศไหนต้องรอให้ออกดอก การเพาะต้นมะละกอจึงนิยมเพาะทีละ 3 เมล็ด เพื่อเอาไว้สำหรับเลือกเพศ ให้เหลือเฉพาะต้นกระเทยที่ให้ผลผลิตมีคุณภาพไว้
- ปลูกเพื่อขายผลผลิต ควรฝึกทำผลผลิตให้ออกนอกฤดู เรียกกว่าการทำน้อยแต่ได้เยอะ ควรฝึกไปตลาดบ่อย ๆ เพื่อเช็คว่าพืชผักชนิดไหนที่มีคนถามหาในช่วงนั้นและนำมาปลูกนอกฤดูให้ได้
- ปลูกเพื่อขายผลพอยได้ เช่น ขายกิ่งพันธุ์ ขายเมล็ดพันธุ์ ขายการแปรรูป ตัวอย่างเช่น หากเราปลูกฝรั่งไม่ควรรอขายแต่ผลฝรั่ง คววรตอนกิ่งฝรั่งขาย ทำฝรั่งแช่อิ่ม ทำฝรั่งแช่บ๊วยแปรรูปขาย
หลังจากที่มี 3 การและ 3 ปลูกแล้ว ค่อยไปรู้จักดิน โดยวิเคราห์ดินและวิเคราะห์น้ำ เมื่อเรียนรู้ครบตามนี้แล้วการทำเกษตรจะเริ่มมองเห็นความสำเร็จ
เทคนิคการสังเกตุดิน
การรู้จักวิเคราะห์ดินต้องสังเกตุความเป็นกรดเป็นด่างได้ในเบื้องต้น ถ้าดินเป็นกรดหรือด่างมากเกินไปธาตุอาหารที่ไปเลี้ยงพืชจะโดนบล๊อค ทำให้ใส่ปุ๋ยไปปริมาณมากแค่ไหนพืชจะไม่สามารถนำไปใช้ได้ ทำให้เกิดสภาวะขาดธาตุอาหาร ใบจะเริ่มเหลือง เหี่ยว แห้ง และส่งผลให้พืชตายได้ในที่สุด
แนวคิดการทำเกษตรอย่างกษัตริย์อย่าทำเกษตรอย่างกระสือ
การทำเกษตรอย่างกระสือ เรียกว่าการทำเกษตรแบบรอกินอย่างเดียวโดยที่ไม่ทำอะไรเลย เน้นรายได้เป็นที่ตั้ง เช่น พึ่งฉีดยาฆ่าแมลงไปและมีคนมาถามซื้อผลผลิตก็รีบขายโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ส่วนการทำเกษตรแบบกษัตริย์ จะมีการให้ แบ่งปัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ยิ่งให้ไปนิ่งได้มา แบบนี้จะยั่งยืนกว่า ซึ่งการทำเกษตรจะเก่งคนเดียวไม่ได้ หากทำแล้วเก่งคนเดียวจะไปได้ไวแต่จะไปได้ไม่ไกล จึงต้องมีการรวมกลุ่มกันเพื่อให้แข็งแกร่งและไปได้ไกล
ความพอเพียงในมุมมองที่ควรจะเป็นควรทำยังไงบ้าง ?
ความพอเพียงในเกษตรจะใช้ 2 คำมารวมกัน คือ เศรษฐกิจพอเพียง และ เกษตรทฤษฏีใหม่
ซึ่งความหมายของคำว่าพอเพียง คือ ผลิตอะไรให้พร้อมที่จะใช้ และอยู่ได้ด้วยตัวเอง และพอใจในสิ่งที่ตัวเองต้องการทำให้มีความโลภน้อยและจะไปเบียดเบียนคนอื่นได้น้อย ซึ่งคำว่าพอเพียงอาจมีมากว่าหรือหรูหราก็ได้แต่ต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น
ส่วนเกษตรทฤษฎีใหม่ คือ ต้องไม่ทำแบบเก่า เช่น ปีนี้ปลูกมันสำปะหลัง 10 ไร่ ปีหน้าปลูกมันสำปะหลัง 8 ไร่ และนำพื้นที่อีก 2 ไร่ มาทำเกษตรผสมผสานหรือทำโคกหนองนา นั่นคือการเข้าสู่เกษตรทฤษฎีใหม่
เทคนิคการขุดหลุมปลูกพืชรากตื้นและพืชรากลึก
พืชรากตื้นให้ปลูกอย่าฝัง จะเป็นตระกูลส้ม และผักสวนครัว เช่นมะละกอ กล้วย ฝรั่ง จะใช้เทคนิคการปลูกอย่าฝัง โดยขุดหลุมไม่ลึกขุดให้พอท่วมตุ้ม ท่วมราก ท่วมกระถางก็พอ ประมาณ 1 คืบหรือ 1 หน้าจอบ แต่ขยายหลุมออกไปด้านข้างให้กว้าง ๆ เพราะพืชจะหากินบริเวณหน้าดินไม่ได้มีรากหยั่งลึก
พืชรากลึกให้ฝังอย่าปลูก จะใช้เทคนิคหมาตายต้องฝัง ต้องขุดลึกๆและกว้าง โดยจะเป็นพืชที่ที่มีความสูงเกิน 4 เมตร เช่น สัก พยุง ยางนา มะม่วง และเป็นประเภทไม้ผล
การผสมดินสำหรับปลูกพืช
ดินที่ขุดขึ้นมาจากหลุมต้องนำมาผสมกับอินทรีย์วัตถุก่อน เช่น ซากพืชซากสัตว์ มูลสัตว์ แกลบดิบ แกลบดำ แล้วแต่ว่าหาอะไรได้ และนำมาคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนจากนั้นจึงคลุมด้านบนด้วยเศษหญ้า เศษฟาง รดด้วยน้ำหมักจุลินทรีย์หรือ EM ประมาณ 3 วันครั้ง โดยใช้เวลารดประมาณ 1 เดือน ก่อนที่จะปลูกพืช เพื่อให้เกิดการย่อยสลาย โดยสังเกตุจากวัชพืชที่ขึ้น หากมีวัชพืชแสดงว่าพร้อมปลูกแล้วหรือนำถั่วเขียวไปลองปลูกก่อน หากถั่วเขียวงอกได้แเสดงว่าพร้อมปลูก และหากต้องการขุดหลุมเพื่อปลูกพืชในวันเดียวโดยที่ไม่ต้องรอหมัก 1 เดือน สามารถใช้มูลสัตว์ที่ผ่านการหมักแล้วได้เลย
วิธีการใช้ปุ๋ยมูลสัตว์ชนิดต่าง ๆ
การใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์จะใช้วิธีจำคือ ขี้หมูกินหัวขี้วัวกินใบขี้ไก่กินผล ยกตัวอย่างเช่น หากหลุมนี้จะปลูกมะนาว ซึ่งมะนาวกินผล จะใส่ทั้งขี้หมูและขี้วัวแต่จะใส่ขี้ไก่มากกว่ามูลสัตว์ชนิดอื่นมากกว่า 3 เท่า
การหมักมูลสัตว์ให้ได้ผลมี 4 วิธีดังนี้
- นำมูลสัตว์ไปกองทิ้งไว้จะใช้ระยะเวลา 1 ปี ในการย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ย
- นำมูลสัตว์ไปกองและทำเป็นแอ่งตรงกลางคล้ายกระทะหงาย และนำน้ำหมักจุลินทรีย์ไปรดรดให้เปียก ทิ้งไว้ตากแดดตากฝนเป็นระยะเวลา 6 เดือน จะกลายเป็นปุ๋ย
- ทำแบบกลับกอง โดยนำมูลสัตว์มากองสูงประมาณ 1-2 คืบ โดยหมั่นพลิกกองทุก ๆ 3 วันและรดด้วยน้ำหมักจุลินทรีย์ จะใช้ระยะเวลา 1 เดือนกลายเป็นปุ๋ย
- ซื้อปุ๋ยหมักมาใช้
มีการนำแนวทางจากไร่อรหันต์มาปรับใช้ที่สวนฮักสกลยังไงบ้าง ?
มีการนำเทคนิคจากไร่อรหันต์มาใช้ เช่น การทำอาคารอบรมเศรษฐกิจพอเพียง เดิมสามารถรับได้แค่ 40 คน ปัจจุบันสามารถรับได้มากถึง 120 คน และเทคนิคการเตรียมหลุมปลูกซึ่งจากเดิมที่เริ่มต้นทำไร่อรหันต์ยังไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ แต่พอมาทำที่สวนฮักสกลมีประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้นจึงสามารถพัฒนาได้ไว และเนื่องจากที่สกลนครเป็นบ้านเกิดการเข้าถึงและการได้รับผลตอบรับจึงเกิดได้เร็วขึ้น
เคล็ดลับการใช้ชีวิตให้มีความสุขมีอะไรบ้าง ?
พี่ปาเน้นการทำเกษตรแบบฮาเฮให้ความสนุกสนาน เน้นความแปลกใหม่และได้ความรู้ โดยพยายามลองทำอะไรที่แปลกใหม่ และที่สำคัญคือการทำเกษตรแบบปลอดสารพิษ ซึ่งเกษตรแบบปลอดสารพิษสามารถใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมีได้ ทำให้พืชได้รับสารอาหารที่มากขึ้นและได้ผลผลิตไว หากมีความเข้าใจในการใช้ปุ๋ยเคมี จะสามารถใช้ให้เกิดประโยชน์และไม่มีสารเคมีตกค้างทำให้ได้ผลผลิตเต็มเม็ดเต็มหน่วย
หากสนใจเรียนรู้การทำเกษตรจากสวนฮักสกล สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 087-323-1139
Facebook : สวนฮักสกล
………………………………………
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :
𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร
𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn
𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn
𝗦𝗵𝗼𝗽𝗲𝗲: shopee.co.th/kasetsanjorn
𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹: @kasetsanjorn
𝗕𝗹𝗼𝗰𝗸𝗱𝗶𝘁: blockdit.com/kasetsanjorn/
𝗧𝘄𝗶𝘁𝘁𝗲𝗿: twitter.com/kasetsanjorn/
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: kasetsanjorn.com