ก่อนมาเลี้ยงปลากระชังทำอาชีพอะไรมาก่อน ?

ก่อนที่อาร์ตจะตัดสินใจเลี้ยงปลากระชังเป็นอาชีพหลัก ได้ทำงานในบริษัทผลิตอะไหล่รถยนต์มาก่อน ประมาณ 15 ปี แต่ไม่ตอบโจทย์เรื่องรายได้เท่าที่ควรจึงขายของในตลาดนัดควบคู่ไปด้วย เมื่อเริ่มมีเงินจำนวนมากขึ้นจึงมองหาอาชีพอื่นเพิ่มเติมและสนใจในการเลี้ยงปลา

ทำไมเลือกเลี้ยงปลาในกระชัง ?

อาร์ตไม่ได้ชอบการทำงานในสายเกษตรมาแต่แรก แต่มีคนชักชวนจึงตัดสินใจเริ่มต้นเลี้ยงปลาในกระชัง เมื่อเริ่มเลี้ยงไปมีจำนวนเยอะขึ้น จากที่เลี้ยงปลาแค่ 3 กระชังและได้กำไรมาจึงขยับขยายเรื่อย ๆ เป็น 18 กระชัง จึงต้องมาทำแบบเต็มตัวเนื่องจากมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง ซึ่งปัจจุบันมีกระชังปลาที่ลงทะเบียนไว้ทั้งหมด 26 กระชัง

เริ่มเลี้ยงแล้วเป็นยังไงบ้าง ?

เมื่อเริ่มเลี้ยงปลาในกระชังและปลามีความหนาแน่นมากขึ้น ประกอบกับช่วงฤดูร้อน ปลามีความเสียหายวันละประมาณ 1 หมื่นบาท จนมีความคิดว่าจะเลิกเลี้ยงปลาในกระชัง แต่ระหว่างนั้นได้ไปขอความรู้เพิ่มเติมจากคนที่เคยเลี้ยงมาก่อน และเข้าไปศึกษาเรียนรู้วิธีการเลี้ยงปลาในกระชังเพิ่มเติม จึงกลับมาทำต่ออีกครั้งจนประสบความสำเร็จ

การเลี้ยงปลาในกระชังต้องขออนุญาติมั้ย ?

การเลี้ยงปลาในกระชัง หากไม่ได้ขออนุญาตจะถือว่าผิดกฎหมาย จึงได้มีการประสานงานกับทางประมงอำเภอและพาไปรู้จักกับเกษตรกรที่เลี้ยงปลาในกระชังที่เก่ง ๆ จึงได้ความรู้จากภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติและกลับมาพัฒนาการเลี้ยงปลาในกระชังอย่างเต็มที่

เลี้ยงปลาอะไรเป็นหลัก ?

ที่ฟาร์มเลี้ยงปลานิลแดงเป็นหลัก ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับปลาทับทิม แต่ใช้ชื่อเรียกไม่เหมือนกัน ในพื้นที่ อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี มีการเลี้ยงปลานิลและปลาบ่อจำนวนมาก ทำให้ผลผลิตมีมากและราคาค่อนข้างถูกจึงตัดสินใจเลี้ยงปลานิลแดงในกระชัง

กว่าจะขายได้เลี้ยงนานมั้ย ?

ระยะเวลาการเลี้ยงขึ้นอยู่การลงไซต์ลูกปลาหากลงลูกปลาไซต์เล็กต้นทุนจะถูกแต่ใช้ระยะเวลาเลี้ยงนาน ที่ฟาร์มจึงใช้ลูกปลาไซต์ใหญ่ ขนาด 25-30 ตัวโล ใช้เวลาเลี้ยงในกระชังแค่ 120-150 วัน โดยสามารถเร่งรอบการผลิตได้เลย ซึ่งจะแบ่งเป็นแต่ละรุ่นให้มีรายได้ทุกเดือน

เทคนิคในการลงลูกปลา

ข้อดีของการใช้ลูกปลาไซต์ใหญ่ คือ ช่วยลดความเสี่ยงในกระชัง ยิ่งจับปลาขายได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งช่วยลดความเสียหายได้ หากมีการดูแลที่ดีสามารถโตได้ถึงเดือนละ 3 ขีด ซึ่งหลักการสำคัญคือการเลือกสายพันธุ์ที่นิยมและขายได้ราคาดี และมีการจัดการที่ดี รวมถึงดูแลเอาใจใส่

ไซต์ปลาที่พร้อมจำหน่ายขนาดเท่าไหร่ ?

ปลาที่พร้อมจำหน่ายจะมีอายุ 120 วัน โดยเน้นคุณภาพ ปลาต้องมีสันหลังหนา มีสีสันและรูปทรงสวยงาม เมื่อนำไปทำอาหารและเสริฟลงจานต้องน่ารับประทาน โดยปลาที่พร้อมจำหน่ายจะมีน้ำหนักประมาณ 8-9 ขีดขึ้นไป

เทคนิคในการให้อาหารปลา

ที่ฟาร์มจะให้อาหารปลาแค่ 2 มื้อ ในช่วงเวลาสายกับช่วงเย็น ซึ่งออกซิเจนในน้ำจะมีส่วนสำคัญในช่วงที่มีแสงสว่างออกซิเจนในน้ำจะมีปริมาณมากทำให้ปลาออกมากินอาหารได้เยอะขึ้น

การเลี้ยงปลาในกระชังใช้ต้นทุนเยอะมั้ย ?

การเลี้ยงปลาในกระชังสิ่งสำคัญที่สุดคือการขออนุญาตให้ถูกต้อง ที่ฟาร์มจะทำกระชังเองทั้งหมด โดยมีผู้ช่วยในการประกอบกระชัง จะมีค่าใช้จ่ายเฉพาะต้นทุนไม่มีเรื่องค่าแรงเพิ่มเติม โดยต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่กระชังละประมาณ 10,000 บาท ในการพร้อมเลี้ยง

เลี้ยงปลาในกระชังมากี่ปีแล้ว ?

ปัจจุบันอาร์ตเริ่มเลี้ยงปลาในกระชังเข้าสู่ปีที่ 4 ประสบปัญหาขาดทุนแค่ช่วงเริ่มต้นเนื่องจากต้องมีการจ้างคนเลี้ยง หลังจากได้รับความรู้ในภาคทฤษฎีและปฏิบัติ จึงจดจำและนำมาประยุกต์ใช้กับที่ฟาร์มโดยที่ไม่มีปัญหาและอุปสรรค์

ปัญหาในการเลี้ยงปลาในกระชังมีอะไรบ้าง

ปัญหาที่สำคัญ คือ น้ำ ที่ไม่สามารถควบคุมได้และเชื้อแบคทีเรียมักจะมากับน้ำ ต้องมีการสังเกตุและดูปลาให้เป็นว่าเป็นแบคทีเรียชนิดไหนที่ทำให้ปลาป่วย มีการแก้ปัญหาที่ถูกต้องตรงกับโรค และในช่วงหน้าร้อนควรมีการเลี้ยงปลาในปริมาณที่บางลงเพื่อช่วยลดอุณหภูมิ

เทคนิคการเลี้ยงปลาในกระชัง

ที่ฟาร์มจะมีการจดบันทึกทำสถิติ การลงจำนวนปลาและจำนวนที่จับได้ มีความเสียหายเท่าไหร่ หลายสายพันธุ์และคัดเลือกสายพันธุ์ที่ดีที่สุดมาเลี้ยง มีการนำอาหารมาทดลองหลาย ๆ ยี่ห้อและเลือกยี่ห้อที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดมาใช้งาน

ข้อแนะนำในการหาตลาด

สิ่งสำคัญของการเป็นเกษตรกรคือ ตลาด หากเลี้ยงแล้วต้องรู้ว่าจะไปขายใคร แต่ต้องรู้โครงสร้าง เช่น แพปลาส่งต่อให้แม่ค้า แม่ค้าส่งต่อให้ครัวเรือนร้านอาหาร ซึ่งการตัดขั้นตอนบางอย่างจะทำให้ได้กำไรที่เพิ่มขึ้น เช่นที่ฟาร์มผลิตปลาแล้วจะส่งที่แม่ค้าโดยตรง ไม่ได้ส่งที่แพ ทำให้ขายปลาได้ราคาที่ดีกว่า

เทคนิคเวลาหาลูกค้าทำอย่างไร ?

อาร์ตจะมีเทคนิคการเข้าหาลูกค้าอย่างสุภาพ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน เข้ากับคนได้ง่าย ทำให้ได้รู้จักคนและนำมาเรียนรู้พัฒนาตัวเองรวมถึงได้ลูกค้ากลับมา

ข้อดีของการหันมาเป็นเกษตรกร

การทำงานประจำรายได้มีความชัดเจน แต่จะมีขีดจำกัดในเรื่องของรายได้ เมื่อมาขายของตลาดนัดหากทำมากก็จะได้มาก แต่สิ่งที่เป็นข้อดีของการมาเป็นเกษตรกร คือ มีเวลาอยู่กับครอบครัวเต็มที่ ได้ดูแลคนที่เรารักอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นความสุขที่หาไม่ได้จากที่ไหน